KTC กำไรปี’64 นิวไฮ 6,251 ล้านบาท ลั่นเร่งเครื่องพอร์ตทะลุ 1 แสนลบ.

HoonSmart.com>>”บัตรกรุงไทย”พอใจผลกำไรปี 64 สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง 6,251 ล้านบาท เติบโต 17.2% ชนะสถานการณ์โควิด การลดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อบัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคล ลั่นปี 65 กำไรนิวไฮอีกครั้ง สบช่องเศรษฐกิจฟื้นตัว  การใช้จ่ายของผู้บริโภคส่งสัญญาณดีขึ้น สร้างโอกาสให้ธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกันเติบโต ตั้งเป้าขยายสินเชื่อ 11,500 ล้านบาท ผลักดันพอร์ตรวมโตเกิน 100,000 ล้านบาท  

ระเฑียร ศรีมงคล

นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2564 ดีขึ้นเล็กน้อย จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุม โควิด-19 ทำให้หลายธุรกิจมีแนวโน้มดีขึ้น มีการใช้จ่ายเม็ดเงิน สร้างรายได้หมุนเวียนจากการท่องเที่ยว ส่งออกสินค้าและบริการ แต่ในปี 2565 ยังคงต้องจับตาความเสี่ยงของหนี้ครัวเรือนและหนี้ธุรกิจที่ยังอยู่ในระดับสูงพอๆ กับความเสี่ยงของโควิด ซึ่งอาจจะกระทบการบริโภค และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง

“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา  KTC ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และการลดเพดานอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อต่อเนื่อง กระทบแผนการขยายธุรกิจบางอย่างต้องชะลอตัวลง พอร์ตลูกหนี้รวมโตไม่มากนัก บริษัทฯ จึงได้ปรับแผนกลยุทธ์เพื่อให้ธุรกิจผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ ไปได้ ทั้งการบริหารพอร์ตลูกหนี้ให้มีคุณภาพดีต่อเนื่อง รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายให้ลดลง  เป็นปัจจัยหลักให้ผลกำไรสุทธิในปี 2564 เพิ่มขึ้น และนับเป็นสถิติใหม่อีกครั้ง” นายระเฑียร กล่าว

ทั้งนี้งบการเงินเฉพาะบริษัทมีกำไรสุทธิ  6,251 ล้านบาท และงบการเงินรวมมีกำไรสุทธิ  5,879 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 17.2% และ 10.2% ตามลำดับ โดยกำไรในงบการเงินรวมต่ำกว่างบการเงินเฉพาะบริษัท เนื่องจากราคาซื้อขายในบริษัท กรุงไทยธุรกิจ ลีสซิ่ง  (KTBL) ที่เกิดขึ้นจริงต่ำกว่าที่คาดการณ์ และเพื่อให้สะท้อนมูลค่าจริงของพอร์ตลูกหนี้ จึงมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นใน KTBL เป็นจำนวน 539 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว

ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2564 บริษัทฯ มีเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม 92,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2.8%  ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอยู่ที่ 195,727 ล้านบาท ลดลง -0.7% รายได้รวม 21,442 ล้านบาท ลดลง -2.8% รายได้ดอกเบี้ยลูกหนี้บัตรเครดิตและลูกหนี้สินเชื่อบุคคลที่ลดลง จากการถูกปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยและผลกระทบจากโควิด  แต่ก็สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายรวมให้ลดลง -7.8% อยู่ที่ 14,197 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายทางการเงิน และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงในอัตรา -7.7% และ -17.4% ตามลำดับ และยังมีอัตรารายได้หนี้สูญที่ได้รับคืนเพิ่มขึ้น 4.7% อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) รวมลดลงที่ 3.6% จาก 3.8% ในไตรมาส 3

ส่วนฐานสมาชิกรวม ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวน 3,266,786 ล้านบัญชี แบ่งเป็นธุรกิจบัตรเครดิต 2,515,110 บัตร เงินให้สินเชื่อ  60,201 ล้านบาท อัตราส่วน NPLs อยู่ที่  1.2% ส่วนธุรกิจสินเชื่อบุคคล 751,676 บัญชี เงินให้สินเชื่อ 29,235 ล้านบาท อัตราส่วน NPLs 2.9%”

นอกจากนี้ บริษัทยังเน้นการบริหารต้นทุนทางการเงินให้มีประสิทธิภาพ  ณ สิ้นปี 2564 มีเงินกู้ยืมทั้งสิ้น 54,403 ล้านบาท ลดลง 5.3% สัดส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาว คิดเป็นสัดส่วน 17% ต่อ 83% ตามลำดับ โดยเป็นเงินกู้ยืมจากธนาคารกรุงไทย 6,230 ล้านบาท สถาบันการเงินอื่น 4,400 ล้านบาท และการออกหุ้นกู้  43,773 ล้านบาท ต้นทุนการเงินเฉลี่ยที่ 2.5% อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2.3 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่า และมีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ  จำนวน 24,009 ล้านบาท

สำหรับแผนกลยุทธ์ในปี 2565 บริษัทเห็นโอกาสในการเติบโตของสินเชื่อมีหลักประกันที่ได้วางรากฐานมากว่า 2 ปี รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ และผู้บริโภคเริ่มมีการใช้จ่ายมากขึ้น ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันพอร์ตลูกหนี้รวมให้โตเกิน 100,000 ล้านบาท และทำกำไรสูงสุดสร้างสถิติใหม่อีกครั้ง

บริษัทจะจัดสรรงบด้านการตลาดที่มากขึ้น และขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจสำคัญที่แตกต่างจากเดิมคือ ธุรกิจบัตรเครดิต สร้างโอกาสเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด จากการขยายฐานบัตรร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่และพัฒนาบัตรเครดิตร่วม (Co-brand) เน้นสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจเพื่อผูกความสัมพันธ์กับสมาชิกบัตรในระยะยาว และตั้งเป้าปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรขยายตัว 10% หรือประมาณ 220,000 ล้านบาท ธุรกิจสินเชื่อเคทีซี พี่เบิ้ม และ KTBL เป็นแกนธุรกิจเป้าหมายที่จะสร้าง New S Curve ผลักดันให้บริษัทมีรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดดและยั่งยืน โดยตั้งเป้ายอดลูกหนี้สินเชื่อเติบโตที่ 11,500 ล้านบาท ผ่านความร่วมมือกับเครือข่ายธนาคารกรุงไทยและกรุงไทยลีสซิ่งทั่วประเทศ ธุรกิจสินเชื่อบุคคล มุ่งขยายฐานสมาชิกใหม่ที่มีศักยภาพ เน้นผู้มีรายได้ประจำและมีฐานรายได้ที่สูงขึ้น คาดเติบโตที่ 7%

ขณะเดียวกัน บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด “MAAI BY KTC”  จากการต่อยอดความแข็งแกร่งของเคทีซีในการทำระบบคะแนนสะสม และความเชี่ยวชาญในการบริหารคะแนน KTC FOREVER ที่ตอบโจทย์หลากหลายความต้องการของลูกค้า โดยจะให้บริการกับพันธมิตรธุรกิจที่ต้องการใช้ลอยัลตี้ โปรแกรม แบบครบวงจร ด้วยระบบบริหารจัดการสมาชิก ระบบบริหารจัดการคะแนน และระบบบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ในรูปแบบคูปองอิเล็กทรอนิก

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปฏิบัติตามแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทยทุกมาตรการม  รวมถึงช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้ที่เข้าร่วมการเปลี่ยนประเภทหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล เป็นเงินกู้สินเชื่อบุคคลระยะยาว และลดดอกเบี้ย  ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2564 มีมูลค่าเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้จำนวน 1,998 ล้านบาท (29,169 บัญชี) โดยมูลค่าลูกหนี้ที่เข้ารับความช่วยเหลือผ่านเคทีซีมีสัดส่วนประมาณ 2.15% ของพอร์ตลูกหนี้รวม

อ่านข่าว
KTB โกยกำไร 21,588 ลบ. เพิ่ม 29% สินเชื่อโต-ตั้งสำรองลด ปี’64
SCB กำไรปี 64 แตะ 3.55 หมื่นล. เพิ่ม 31% ตั้งเป้าปีนี้สินเชื่อโต 3-5% NPL ต่ำกว่า 4%
KBANK โกยกำไร 3.8 หมื่นลบ.ปี 64 โต 29% ตั้งสำรอง-NPLs ลดลง
BBL ฟาดกำไร 26,507 ลบ.พุ่ง 54% รายได้งาม ตั้งสำรอง 3.4 หมื่นล.ปี64
BAY กำไรปี 64 พุ่ง 46.7% รับกำไรพิเศษจากขาย ”เงินติดล้อ”
KKP กำไร Q4/64 พุ่ง 83% ทะลุ 2 พันลบ. หนุนงบปีแตะ 6.3 พันล.
TISCO โชว์กำไร 6,781 ลบ.ปี 64 โต 11.8% เฉพาะQ4 กำไร 1,791 ลบ. เพิ่ม 9.47%
LHFG ขาดทุน 373 ลบ. Q4 เพิ่มสำรอง ปี 64 กำไรแค่ 1,383 ลบ.
CIMBT กำไรปี 64 แตะ 2.4 พันลบ. โต 89% ค่าใช้จ่ายลด