Fund Manager

“Allianz-BlackRock-Schroders” มอง “เอเวอร์แกรนด์” ความเสี่ยงเฉพาะตัว

HoonSmart.com>> “3 บลจ.ชั้นนำระดับโลก” มองปัญหาสภาพคล่อง Evergrande เป็นความเสี่ยงเฉพาะราย Allianz ก่อหนี้จำนวนมากขยายกิจการไปยังธุรกิจอื่นไม่เกี่ยวกับอสังหาฯ คาดไม่เป็นความเสี่ยงต่อระบบ เงินกู้มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ด้านอุตสาหกรรมอสังหาฯ มีสัดส่วนเพียง 2% ในดัชนี MSCI China A และแค่ 3% ของดัชนี MSCI All China ด้าน BlackRock มองแรงเทขายรุนแรงช่วงสั้นๆ อสังหาฯ เกรด B หลายบริษัทฐานะการเงินยังแกร่ง ส่วน Schroders เชื่อเป็นปัญหาขาดสภาพคล่องในระยะสั้นๆ มากกว่าล้มละลาย

The Lady Isn’t Tapering.” But Ask Again in December

นางคริสติน ลาการ์ด ประกาศลดปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรที่ใช้ในช่วงวิกฤตโควิดตามโครงการ PEPP ซึ่งเป็นผลจากการที่เศรษฐกิจของยุโรปมีทิศทางฟื้นตัวได้ดีและเร็วกว่าที่ ECB คาดไว้ อย่างไรก็ตาม ECB ไม่เรียกว่า “Tapering” เป็นแค่การปรับเปลี่ยน “Recalibrating” และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนให้ซื้อพันธบัตรมากขึ้นหรือน้อยลงหลังจากที่มีการทบทวนนโยบายอีกครั้งในการประชุมเดือน ธ.ค.

MFC : “S&P 500 still on track for 7th straight positive month”

เดือน ส.ค. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังปรับตัวขึ้นได้อย่างโดดเด่นนำโดยหุ้นขนาดใหญ่ (U.S. Large Cap) ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ทำผลตอบแทนเป็นบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 โดยที่ดัชนีไม่ได้มีการปรับฐานในระดับ -5% มาแล้วเป็นระยะเวลานานกว่า 10 เดือน สวนทางกับสถิติย้อนหลังโดยเฉลี่ยที่ 1 ปีจะมีการปรับฐานราว -5% อย่างน้อย 2 ครั้ง ทำให้ความน่าจะเป็นที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะสามารถทำผลตอบแทนเป็นบวกได้อีกในเดือน ก.ย. ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 เริ่มมีความท้าทายมากขึ้น

SCBAM : “Fed ส่งสัญญาณการทำ QE Taper ในปีนี้ แต่ยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย”

ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้การแพร่ระบาด COVID-19 กลับมาเร่งตัวขึ้นทั่วโลกจากสายพันธุ์ Delta ทำให้หลายประเทศต้องกลับมาใช้มาตรการ Lockdown อีกครั้ง อย่างไรก็ดีตัวเลขผู้เสียชีวิตและอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (Hospitalizations) ยังคงอยู่ในระดับต่ำ สะท้อนประสิทธิภาพทางการแพทย์และการฉีดวัคซีนที่รวดเร็ว โดยล่าสุดสหรัฐฯ และยุโรปมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนถึง 60.55% และ 53.06% ของจำนวนประชากรทั้งหมดตามลำดับ

MFC : “Investors look to Jackson Hole”

ประเด็นสำคัญที่ตลาดเฝ้าติดตามในสัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้นการสัมนาประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสันโฮลในวันที่ 26-28 ส.ค นี้ ซึ่งหัวข้อในการสัมนาปีนี้ใช้ชื่อว่า “Macroeconomic Policy in an Uneven Economy” โดยเน้นไปที่ความไม่เท่าเทียมกันของเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่ประเด็นที่นักลงทุนทั่วโลกต่างรอฟังคือ ถ้อยแถลงนโยบายการเงินของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ว่าจะมีท่าทีส่งสัญญาณลดการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE Tapering) ในการประชุมครั้งนี้หรือไม่ สอดคล้องกับตลาดที่คาดการณ์ว่าเฟดจะส่งสัญญาณลดขนาด QE ลงในงานสัมนาครั้งนี้ หรือการประชุม FOMC ในเดือนหน้า

ตลาดหุ้นจีนเผชิญแรงกดดันจากการจัดระเบียบ-นโยบายการควบคุมของภาครัฐ

สิ่งที่รัฐบาลจีนกังวลมากที่สุดในตอนนี้คือเรื่อง “ความไม่เท่าเทียม” และ “การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม” ทำให้คนในประเทศไม่มีความสุข ในช่วงต้นของการเปลี่ยนแผนเศรษฐกิจ ทางการจีนมักจะใช้นโยบายหลากหลายรูปแบบควบคู่กันไปในการบริหารจัดการ ในแผนเศรษฐกิจ 5 ปีล่าสุด เน้นที่ “การหมุนเวียนภายในประเทศ” (dual circulation) กลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะถูกกดดันต่อเนื่องคือ เทคโนโลยีขนาดใหญ่ และกลุ่มธุรกิจที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงอุตสาหกรรม

1 28 29 30 31 32 49