SCBAM : ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ Omicron สร้างความกังวลต่อตลาดต่อเนื่อง

Highlight ประจำสัปดาห์

๐ สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นโลกผันผวน จากความกังวลเรื่องการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส Covid 19 สายพันธุ์ Omicron

๐ เชื้อไวรัสสายพันธุ์ Omicron ยังไม่่มีข้อมูลที่เพียงพอถึงผลกระทบของไวรัส อย่างไรก็ตาม อาจแพร่กระจายได้ดีกว่าสายพันธุ์ Delta และอาจหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้ ขณะที่ หลายประเทศเริ่มจํากัดการเดินทางจากแอฟริกา

๐ ประธาน FED ส่งสัญญาณเข้มงวดมากยิ่งขึ้นอาจพิจารณายุติ QE Tapering เร็วขึน ด้านสภาผ่านงบประมาณชั่วคราวเลื่อนความเสี่ยง Government Shutdown ไปเดือน ก.พ. 2022

๐ ดัชนี Composite PMI ในเดือน พ.ย. ของประเทศหลักทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ†น ยังอยู่่ใน เกณฑ์ขยายตัวรวมทั้งจีน โดยดัชนีภาคการผลิตกลับมาขยายตัว
 
แนะนำลงทุน

หุ้นสหรัฐ
ปรับคําแนะนําจาก “คงนํ้าหนักการลงทุน” เป็น “เพิ่มนํ้าหนัการลงทุน” การระบาดของสายพันธุ์ Omicron สร้างความผันผวนต่อตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่่างไรก็ตามการกระจายวัคซีนที่สูงทําให้สัดส่วนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวใน รพ. อยู่ ในระดับตํ่า และการขึ้นภาษีนิติบุคคลถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2023 ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯมีสัดส่วนหุ้นกลุ่่มเทคโนโลยี สูงซึ่งจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อโควิดตํ่ากว่า

อสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐาน
ดัชนีราคากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฯ ไทย ยังได้รับอานิสงส์จากแผนการเปิดประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขนาดใหญ่ รวมถึงความคืบหน้าของการฉีดวัคซีน ขณะเดียวกันจํานวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มปรับตัวลดลงและประชาชน สิงคโปร์ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วเกินกว่า 90% และเริ่มมีการฉีด Booster และปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศผ่าน โครงการ Vaccinated Travel Lane ในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังต้องจับตาการแพร่เชื้อไวรัสสายพันธุ์ Omicron

น้ำมัน
ปรับคําแนะนําจาก “คงนํ้าหนักการลงทุน” เป็น “เพิ่มนํ้าหนักการลงทุน” โดยราคานํ้ามันปัจจุบันสะท้อนการกลับมา Lockdown ด้านจํานวนแท่นขุดเจาะปรับตัวสูงขึ้นโดยเพิ่มสูงขึ้นอย‹างค่อยเป็นค่อยไป โดยจํานวนแท่นขุดเจาะยังคงอยู่ ในระดับตํ่ากว่าก่อนสถานการณ์แพร่ระบาด Covid-19 อีกทั้ง OPEC ยังเป็นผู้ควบคุมปริมาณนํ้ามันโลก ทําให้จํากัด Downside ของราคา

 
แนะนำคงน้ำหนักการลงทุน

หุ้นยุโรป
จํานวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ปรับตัวสูงทําสถิติใหม่ ส่งผลให้หลายประเทศประกาศมาตรการ Lockdown ขึ้นอีกครั้ง เพิ่มความกังวลต่อตลาด รวมถึงอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นกว่าตลาดคาด อย่างไรก็ตามปริมาณผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอยู่ในระดับสูง รวมถึงดัชนีตัวเลข PMI เดือน พ.ย. ยังคงขยายตัวดีกว่าตลาดคาด โดยแนะนําให้ลงทุนกลุ่มหุ้น Small Cap ที่ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจโตดีต่อเนื่องในปี 2023

หุ้นญี่ปุ่น
ตัวเลขยอดค้าปลีกญี่ปุ่นและผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ต.ค. ปรับตัวสูงขึ้นหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในญี่ปุ่นเริ่มคลี่คลาย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ประมาณ 10% ของ GDP อีกทั้งยังคงได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ อย่างไรก็ตามตลาดปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ Omicron

หุ้นจีน A-Shares และ H-Shares
ราคาตลาดหุ้นจีนเริ่มสะท้อนปัญหาด้านการขาดแคลนพลังงาน และปัญหาเรื่อง Regulatory ไปบางส่วนแล้ว อีกทั้ง ธนาคารกลางจีนเริ่มกลับมาอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินต่อเนื่อง น่าจะช่วยลดความผันผวนของตลาดหุ้นจีนลง อย่างไรก็ตามปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีอยู่ จากนโยบายควบคุมการก่อหนี้ของรัฐบาล

หุ้นอินเดีย
ระดับ Valuation หุ้นอินเดียยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ Omicron ส่งผลลบต่อ Sentiment ตลาดโดยรวม ยังคงต้องจับตาสถานการณ์การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์นี้อย่างใกล้ชิด

แนะนำคงน้ำหนักการลงทุน
หุ้นไทย
ปรับคําแนะนําจาก “แนะนําลงทุน” เป็น “คงนํ้าหนักการลงทุน” เนื่องจากมีความกังวลถ้าพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่‹ Omicron ในประเทศ อาจทําให้รัฐบาลมีโอกาสกลับมา Lockdown อีกครั้งและแผนการเปิดประเทศอาจล่าช้าไปอีก แม้ว่าประชาชนฉีดวัคซีนครบโดสเกือบ 60% แล้ว และยังได้ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่

หุ้นเกาหลี
ปรับคําแนะนํา “ชะลอการลงทุน” เป็น “คงนํ้าหนักการลงทุน” หลังจากช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นตลาดเกาหลีปรับตัวลงมา สะท้อนข่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่จํานวนผูŒติดเชื้อในเกาหลีใต้ยังอยู่ในระดับสูงและเริ่มพบผู้Œติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron ในประเทศ ทั้งนี้ความเสี่ยงของปัญหา Global Supply Disruption ที่คลี่คลายขึ้นอาจเป็นปั˜จจัยบวกต่‹อ ตลาดระยะถัดไป

ทองคำ
ปรับคําแนะนําจาก “เพิ่มนํ้าหนักการลงทุน” เป็น “คงนํ้าหนักการลงทุน” ในทองคํา เนื่องจาก FED ส่งสัญญาณอาจขึ้น อัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด จากเงินเฟ้อที่สูงต่อเนื่อง อย่‹างไรก็ตามยังแนะนําให้ถือทองคําเพื่อกระจายความเสี่ยง

 
แนะนำชะลอการลงทุน

ตราสารหนี้ไทย

แผนการเปิดประเทศที่ชัดเจนมากขึ้น ประชาชนฉีดวัคซีนครบโดสมากกว่า 50% รวมถึงมาตรการกระตุ้นภาคการ ท่่องเที่ยวและภาคการบริโภคในประเทศ ทําให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทน พันธบัตรระยะยาวสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับขึ้น จึงเน้นการลงทุนตราสารหนี้ไทย Duration ตํ่า

ตราสารหนี้ต่างประเทศ
เน้นลงทุนใน Credit และ Duration สั้น เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงขยายตัวดี อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่ FED จะถอน สภาพคล‹องเร็วขึ้น ขณะที่สภาผูŒแทนฯ สหรัฐฯ มีมติเห็นชอบแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ “Build Back Better” วงเงินรวม 2.43 แสนล้านดอลลารสหรัฐฯ คิดเปšนประมาณราว 11% GDP ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจในระยะถัดไป