SCBAM : ผลการประชุม Fed ออกมาตามคาด

๐ สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นโลกค่อนข้างผันผวน จากความกังวลผลการประชุม FED หลังจากที่ท่าทีของ FED ค่อนข้าง Hawkish เนื่องจากตัวเลข CPI และ PPI ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด

๐ FED คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไวที่ระดับ 0-0.25% และปรับลดอัตราการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE taper) ลงเพิ่มเติม จากเดิมลงเดือนละ USD15bn เป็นลดลงเดือนละ USD30bn ตามตลาดคาดการณ์

๐ ประธานาธิบดี Joe Biden ลงนามเห็นชอบให้ปรับเพิ่มเพดานหนี้วงเงิน USD2.5trn สู่ ระดับ USD31.4trn ซึ่งน่าจะเพียงพอสําหรับชําระหนี้รัฐบาลจนถึงต้นปีี 2023 และผ่านพ้น ช่วงเลือกตั้งกลางเทอม (Midterm Elections) ในเดือน พ.ย. 2022

๐ ธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 15bps เป็น 0.25% หลังจากเงินเฟ้อ เดือนพฤศจิกายน พุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี ที่ 5.1%

 
แนะนำลงทุน

หุ้นสหรัฐอเมริกา
ความกังวลเริ่มลดลง หลังจากที่ผลการประชุม FED ออกมาตามที่ตลาดคาดการณ์ และปรับเพิ่มเพดานหนี้วงเงิน USD2.5trn จนถึงปี 2023 ทําให้นักลงทุนเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ในขณะที่การระบาดของ Omicron เพิ่มขึ้น แต่ไม่น่ากังวลเหมือนก่อนหน้านี้ เพราะผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง และวัคซีนยังมีเปอร์เซ็นต์สูงที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้

อสังหาฯและโครงสร้างพื้นฐาน
ดัชนีราคากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฯ ไทย ยังได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รวมถึง ประชาชนฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเกินกว่า 60% ขณะเดียวกันจํานวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้้มปรับตัวลดลงและประชาชน สิงคโปร์ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วเกินกว่า 90% และเริ่มมีการฉีด Booster อย่่างไรก็ตามการเปิดประเทศอย่างเต็ม รูปแบบอาจชะลอลงเนื่องจากความเสี่ยงของการแพร่เชื้อไวรัส Omicron ในระยะนี้

หุ้นจีน A-Shares
จากที่ธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินคิดเป็นประมาณ 1.88 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยผ่านการลด Required Reserve Ratio เพื่อสนับสนุนภาคเศรษฐกิจและลดแรงกดดันต่อการแข็งค่าของเงินหยวน อีกทั้งปัญหาพลังงานเริ่มคลี่คลายลง สะท้อนจากตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดี

 
แนะนำคงน้ำหนักการลงทุน

หุ้นยุโรป
จํานวนผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่อัตราการเข้ารักษาในโรงพยาบาลลดลง เนื่องจากเชื้อไม่ได้รุนแรงเมื่อ เทียบกับการระบาดรอบที่ผ่านมาและยุโรปมีอัตราการฉีดวัคซีนค่อนข้างสูง คาด ECB คงอัตราดอกเบี้ยและจะยุติ มาตรการ PEPP ในเดือนมีนาคมปีหน้า

หุ้นญี่ปุ่น
คาดจะกลบมาทํา Travel Go ในเดือนมกราคมปีหน้า ภายหลังที่จำนวนผู้ติดเชื้อปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 100 คนต่อวันและอัตราการฉีดวัคซีนค่อนข้างสูง ตัวเลขส่งออกในเดือนพฤศจิกายนเร่งตัวขึ้น 20.5% YoY จากการฟื้นตัวของการส่งออกรถยนต์ ในขณะที่ BOJ คงอัตราดอกเบี้ย -0.1% อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตามองการระบาดของ Omicron ภายในประเทศ เนื่องจากจํานวนการฉีด Booster ยังคงตํ่าอยู่

หุ้นไทย
จากความกังวลที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ Omicron ในประเทศเพิ่มขึ้น แต่คาดว่ารัฐบาลน่าจะไม่ปิดเมืองเต็มรูปแบบเท่ากับระลอกก่อนหน้า เนื่องจากการกระจายวัคซีนครอบคลุมสูงขึ้นโดยประชาชนฉีดวัคซีนครบโดสเกินกว่า 60% แล้ว และยังได้ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ แนะนํามาลงทุนในหุ้นธรรมาภิบาลไทย ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการของรัฐ และเน้นอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศ

เกาหลีใต้
ความกังวลเรื่องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของจํานวนผู้ติดเชื้อไวรัสในเกาหลีใต้มีมากขึ้น ทําให้รัฐบาลเริ่มกลับมาใช้มาตรการควบคุมโรค COVID-19 อีกครั้ง หลังจากผ่อนคลายไปช่วงเดือน พ.ย. อย่างไรก็ดีประชาชนได้รับวัคซีน ครบโดสเกินกว่า 80% แล้วและเริ่มเร่งการฉีด Booster ภายในประเทศ ทั้งนี้ความเสี่ยงของปัญหา Global Supply Disruption เริ่มมีแนวโน้มคลี่คลายขึ้น อาจเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดระยะถัดไป

หุ้นอินเดีย
ปรับคําแนะนําจากแนะนําการลงทุนเป็นคงนํ้าหนักการลงทุน โดยตลาดปรับตัวลงมาจากค่าเงินอ่อนค่าและการไหลออกของ Foreign Fund Flow ส่วนจํานวนผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับตํ่าและอัตราการฉีดวัคซีนสูง ทําให้ mobility ปรับตัวเพิ่มขึ้น และ consumption ในประเทศปรับตัวดีขึ้น

น้ำมัน
แนะนําคงนํ้าหนักการลงทุน โดยนักลงทุนมีความกังวลภายหลังจากมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ Omicron ในขณะที่ EIA รายงานสต็อกนํ้ามันดิบสหรัฐฯ หดตัว 4.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ และจํานวนแท่นขุดเจาะยังคงอยู่ในระดับตํ่ากว่าก่อนสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 อย่างไรก็ตาม OPEC ยังคงเป็นผู้ควบคุม ปริมาณนํ้ามันโลก ทําให้ Downside ของราคาจํากัด

ทองคำ
แนะนําคงนํ้าหนักการลงทุนในทองคํา ผลการประชุม FED ออกมาตามตลาดคาด โดยมีการเร่งการปรับลด QE และ คาดว่าจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า อย่างไรก็ตามยังแนะนําให้ถือทองคําเพื่อกระจายความเสี่ยง

 
แนะนำชะลอการลงทุน

ตราสารหนี้ไทย

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มกลับมาเติบโตได้ดีขึ้น ภายหลังจากอัตราการฉีดวัคซีนมากกว่า 60% และมีจํานวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้นหลังจากที่มีการเปิดประเทศ ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ภายหลังจากธนาคารกลางหลายประเทศเริ่มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย จึงเน้นการลงทุนตราสารหนี้ไทย Duration ตํ่า

ตราสารหนี้ต่างประเทศ
เน้นลงทุนใน Credit และ Duration สั้น ผลการประชุม FED เป็นไปตามตลาดคาด มีการเร่งการปรับลด QE มากขึ้น และคาดจะปรับเพิ่มดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2022 ในขณะที่ BoE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 15bps เป็น 0.25%