HoonSmart.com>>ธนาคารกสิกรไทยเปิดกำไรปี 64 จำนวน 38,052.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,565 ล้านบาท ตั้งสำรองลดลง 3,216 ล้านบาท เหลือ 4 หมื่นล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 7,822 ล้านบาทหรือ 6.13% ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 1,910 ล้านบาท หรือ 4.17% NPLs อยู่ที่ 3.76% ลดลงจาก 3.93% เฉพาะไตรมาส 4 กำไรเฉียด 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.72% จากไตรมาส 3
ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ในปี 2564 มีกำไรสุทธิ 38,052.72 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ15.77 บาท เพิ่มขึ้น 8,565.60 ล้านบาท หรือ 29.05% เทียบกับปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 29,487.12 ล้านบาทคิดเป็นกำไร 12.42 บาทต่อหุ้น
เฉพาะไตรมาสที่ 4/2564 มีกำไรสุทธิ 9,901.17 ล้านบาท ลดลงจำนวน 3,357.21 ล้านบาท หรือ 25.32 % เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 13,258.38 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้นจำนวน 1,270.56 ล้านบาท คิดเป็น 14.72%จากไตรมาสที่ 3/2564 ที่มีกำไรสุทธิ 8,630.61 ล้านบาท
กำไรที่ดีขึ้นในปี 2564 ส่วนหนึ่งเกิดจากการลดลงของสํารองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected credit loss : ECL) จำนวน 3,216 ล้านบาท หรือ 7.38% โดยธนาคารพิจารณาตั้งสำรองจำนวน 40,332 ล้านบาท ซึ่งยังคงเป็นสำรองภายใต้ความระมัดระวังและมีอัตราผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ(Coverage ratio) ณ วันที่ 31 ธ.ค.2564 สูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 159.08%เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 149.19%
นอกจากนี้ธนาคารและบริษัทย่อยมีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 7,822 ล้านบาทหรือ 6.13% หลักๆ เกิดจากการให้สินเชื่อตามยุทธศาสตร์ของธนาคารแก่ลูกค้าที่มีศักยภาพและมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าโดยการเสริมสภาพคล่องให้ลูกค้าสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจ รวมทั้งลูกค้าบางส่วนยังอยู่ภายใต้มาตรการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ทำให้ธนาคารยังคงต้องมีการบริหารจัดการดอกเบี้ยค้างอย่างต่อเนื่อง โดยอัตรผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (NIM) อยู่ที่ระดับ 3.21%
สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 1,910 ล้านบาท หรือ4.17% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการจำหน่ายหลักทรัพย์และรายได้สุทธิจากการรับประกันก็ลดลง แม้ว่ารายไดค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น จำนวน 3,312 ล้านบาท หรือ7.01% หลักๆ จากค่าธรรมเนียมรับจากการจดัการกองทุน และค่านายหน้ารับจากการซื้อขายหลักทรัพย์ ในส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆเพิ่มขึ้น จำนวน 1,048 ล้านบาทหรือ 1.50% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิอยู่ที่ระดับ 43.49%
สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 31 ธ.ค.2564 อยู่ที่ระดับ 3.76% ลดลงเทียบกับสิ้นปี 2563 อยู่ที่ 3.93% สําหรับอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ตามหลักเกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 18.77% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.49%
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2564 กลับมาขยายตัวอีกครั้ง หลังจากที่หดตัวลงอย่างมากจากผลกระทบของโควิด-19 ในปี 2563 โดยการใช้จ่ายในประเทศได้รับแรงหนุนจากมาตรการภาครัฐและการเร่งฉีดวัคซีน ขณะที่ทางการไทยเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี ส่วนการส่งออกเติบโตในระดับสูงได้ตามทิศทางเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ดี แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศอาจชะลอลงอีกครั้งในช่วงต้นปี 2565 ท่ามกลางความเสี่ยงจากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ทำให้ทางการไทยต้องมีการปรับมาตรการเพื่อดูแลสถานการณ์อีกครั้ง
อ่านข่าว
KTC กำไรปี’64 นิวไฮ 6,251 ล้านบาท ลั่นเร่งเครื่องพอร์ตทะลุ 1 แสนลบ.
BAY กำไรปี 64 พุ่ง 46.7% รับกำไรพิเศษจากขาย ”เงินติดล้อ”
KTB โกยกำไร 21,588 ลบ. เพิ่ม 29% สินเชื่อโต-ตั้งสำรองลด ปี’64
BBL ฟาดกำไร 26,507 ลบ.พุ่ง 54% รายได้งาม ตั้งสำรอง 3.4 หมื่นล.ปี64
SCB กำไรปี 64 แตะ 3.55 หมื่นล. เพิ่ม 31% ตั้งเป้าปีนี้สินเชื่อโต 3-5% NPL ต่ำกว่า 4%
KKP กำไร Q4/64 พุ่ง 83% ทะลุ 2 พันลบ. หนุนงบปีแตะ 6.3 พันล.
TISCO โชว์กำไร 6,781 ลบ.ปี 64 โต 11.8% เฉพาะQ4 กำไร 1,791 ลบ. เพิ่ม 9.47%
LHFG ขาดทุน 373 ลบ. Q4 เพิ่มสำรอง ปี 64 กำไรแค่ 1,383 ลบ.
CIMBT กำไรปี 64 แตะ 2.4 พันลบ. โต 89% ค่าใช้จ่ายลด