บลจ.แอสเซทพลัสตั้งเป้า AUM ปีนี้ 4 หมื่นลบ. เสิร์ฟกองทุน ASP-PROPIN กระจายเสี่ยง

HoonSmart.com>> บลจ.แอสเซท พลัส เปิดแผนงานปี 63 ขยายสินทรัพย์เติบโตแตะ 4 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 3.25 หมื่นล้านบาท เน้นตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าหวังผลตอบแทนมั่นคง ไม่ผันผวน ชู 3 กองทุนหลัก “มันนี่ มาร์เก็ต-กองผสม-รีท โครงสร้างพื้นฐาน” ลุยตลาดปีนี้ ช่วยนักลงทุนจัดพอร์ตกระจายเสี่ยง ลดความผันผวน

นายคมสัน ผลานุสนธิ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส เปิดเผยว่า แผนงานในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้บริหาร (AUM) เติบโตแตะ 4 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปี 2562 อยู่ที่ 3.25 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนรวมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาทและกองทุนส่วนบุคคล 7,000 ล้านบาท โดยปีที่ผ่านมาสินทัรพย์เพิ่มประมาณ 3% ส่วนปี 2563 นี้ตั้งเป้าเติบโตจากกองทุนรวม 3,000-5,000 ล้านบาทและกองทุนส่วนบุคคล 2,000 ล้านบาท

“ปีนี้เราไม่เน้นออกกองทุนใหม่จำนวนมาก แต่จะมุ่งเน้นกองทุนที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะกองทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอและไม่ผันผวน ซึ่งนำเสนอกองทุนที่มีอยู่เพื่อให้นักลงทุนกระจายลงทุนหลายสินทรัพย์ ลดความเสี่ยงจากการลงทุนที่ยังคงมีความผันผวน”นายคมสัน กล่าว

นายคมสัน กล่าวว่า บริษัทได้ออกกองทุนเปิด แอสเซทพลัส อสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน เฟล็กซิเบิล (ASP-PROPIN) ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันนี้ – 7 ก.พ. 2563 ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท โดยเป็นกองทุน Fund of Funds มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุน TH REITs, TH Infrastructure และ SG REITs รวมถึงลงทุนใน Lazard Global Listed Infrastructure Equity Fund ที่ลงทุนในหุ้น Global Infrastructure ผ่านการคัดสรรโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

นอกจากนี้ได้เพิ่มทางในการรับผลตอบแทน 2 ลักษณะผ่านหน่วยลงทุน 2 รูปแบบ กล่าวคือหน่วยลงทุนชนิด ASP-PROPIN-R ซึ่งมีการรับซื้อคืนอัตโนมัติ (Auto redemption) สูงสุดถึง 12 ครั้งต่อปี ในขณะที่หน่วยลงทุนชนิด ASP-PROPIN-A จะสะสมผลตอบแทนไว้ในกองทุนเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อเนื่องไปจนกว่าผู้ลงทุนจะขายคืน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ต้องเสียภาษี

“การลงทุนในหุ้นอย่างเดียวอาจส่งผลให้พอร์ตมีความเสี่ยงมากจนเกินไป ขณะที่ลงทุนในตราสารหนี้อย่างเดียวก็ส่งผลให้พอร์ตมีผลตอบแทนต่ำ แนะนำให้กระจายน้ำหนักไปยังสินทรัพย์ทางเลือก เพื่อให้พอร์ตการลงทุนมีผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่เหมาะสมกับสภาวะ โดยลงทุนในกลุ่มที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ย (Yield Play) โดยเฉพาะในกลุ่ม REITs เนื่องจากภาพรวมของธนาคารกลางทั่วโลกยังคงดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างเต็มกำลัง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรค่อนข้างต่ำ และยังคงมีแนวโน้มที่จะต่ำในระยะสั้นถึงกลาง ทำให้สินทรัพย์ประเภท REITs ที่มักจะมีความผกผันกับอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตร มีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในปีนี้”นายคมสัน กล่าว

นอกจากนี้มองมูลค่าของพื้นฐานของ REITs แต่ละกลุ่มได้ผ่านจุดต่ำที่สุดไปแล้ว และมีความน่าสนใจมากกว่าเมื่อเทียบกับอัตราการจ่ายผลตอบแทนของสินทรัพย์อื่นๆ ทั้งยังสามารถเป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนอีกด้วย

นายคมสัน กล่าวว่า นอกเหนือจากกองทุน ASP-PROPIN ซึ่งเน้นลงทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานทั้งในและต่างประเทศแล้ว อีก 2 กองทุนหลักที่นำเสนอในปีนี้ ได้แก่ กองทุนเปิด แอสเซทพลัส ตราสารหนี้ เดลี่ พลัส ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ASP-DPLUS) ซึ่งเป็นกองทุนมันนี่มาร์เก็ต เมื่อนักลงทุนขายวันนี้จะได้รับเงินในวันถัดไป (T+1) ผลตอบแทนปีที่ผ่านมาประมาณ 1.8-2% ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ โดยในประเทศเน้นหุ้นกู้เอกชนคุณภาพและอายุสั้นเพียง 3 เดือน ขณะที่อายุเฉลี่ยตราสารในพอร์ต 90 วัน ซึ่งปัจจุบันกองทุนมีขนาด 1.1 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าการเติบโตประมาณ 3,000-5,000 ล้านบาท

กองทุนเปิด แอสเซทพลัส แอคทีฟ แอสเซท แอลโลเคชั่น ชนิดสะสมมูลค่า (ASP-AAA) เป็นกองทุนมัลติ แอสเซ็ท เน้นลงทุนในหลายสินทรัพย์ในประเทศ แบ่งเป็น ตราสารหนี้ไทย 60% กองรีทและอินฟราฟันด์ 10% และหุ้นทั่วโลกโดยลงทุนผ่านกองทุน ETF ที่ลงทุนในดัชนีหุ้น 30% โดยปีที่ผ่านมาผลตอบแทน 5.3-5.4% มีความผันผวนต่ำ 2% กว่า โดยมีขนาดกองทุน 400 ล้านบาท ซึ่งตั้งเป้าเติบโต 1,500-2,000 ล้านบาท

อ่านประกอบ

บลจ.แอสเซทพลัสมองหุ้นปีนี้ 1,650 จุด ส่งกองอสังหาฯ-อินฟราฯ เติมพอร์ต