HoonSmart.com>>นักลงทุนถล่มหุ้นรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ ถึงคิวช.การช่าง ให้ข้อมูลนักวิเคราะห์แล้วตกใจงานในมือเหลือน้อย เพียง 3.8 หมื่นล้าน อยู่ได้ปีครึ่ง งานใหม่เข้ามาช้า ปรับลดราคาเป้าหมาย และประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าลง บอร์ดแจกปันผลกลางปีนี้หุ้นละ 0.20 บาท ส่วนชิโน-ไทย เห็นมาร์จิ้นหดตัวลงไตรมาส 2
นักลงทุนกดหุ้นบริษัท ช.การช่าง (CK)ในช่วงบ่าย ลงมาปิดที่ 23.40 บาทร่วงลง 4.10% ส่วน บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ไหลลงมาหลายวัน เนื่องจากผิดหวังผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2562 โดยเฉพาะอัตรากำไร(มาร์จิ้น)ที่หดตัวลงแรง แม้ว่าราคาพยายามยืนบวกให้ได้ แต่ไม่สำเร็จลงตามพี่ใหญ่ ปิดที่ 19.50 บาท ติดลบ 1.52%
ด้านคณะกรรมการบริษัทช.การช่างมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.20 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 338 77 ล้านบาท ให้ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในทะเบียนวันที่ 4 ก.ย. 2562 กำหนดจ่ายเงินวันที่ 18 ก.ย. 2562
บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”ในช่วงอ่อนตัว ในระยะสั้นบริษัทช.การช่าง ยังขาดปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้น ให้ราคาเป้าหมาย 31 บาท ปัจจุบันงานในมือหรือ Backlog ที่ต่ำและโครงการภาครัฐบาลมีความล่าช้า ทำให้กำไรปีนี้และปีหน้าจะไม่เด่น
” เราปรับประมาณกำไรลดลง คาดยอดรับรู้รายได้ในปีนี้ 25,080 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 14% จะมีกำไรสุทธิ 1,888 ล้านบาท ลดลง 24% ส่วนปี 2563 ประเมินรายได้ 25,456 ล้านบาท ทรงตัว แต่แรงหนุนจาก BEM และ CKP จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน ทำให้กำไรปี 2563 จะโต 5.6% สู่ระดับ 1,994 ล้านบาท”บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯระบุ
CK มีจุดเด่นที่เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ และมีเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของประเทศ คือ BEM, CKP และ TTW ซึ่งมีการเติบโตและจะช่วยเพิ่มงาน มูลค่าเงินลงทุนสูงถึง 7.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 46 บาทต่อหุ้น
นอกจากนี้คาดว่าบริษัทช.การช่างจะได้งานรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน 5-7 หมื่นล้านบาท และโครงการก่อสร้างทางด่วนสองชั้นกว่า 3 หมื่นล้านบาท จะช่วยเติม Backlog ในปี 2563 ปัจจุบันมีงานในมือ 38,569 ล้านบาท และกำลังจะลงนามก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 2,019 ล้านบาท ทางด่วนพระรามสาม-ดาวคะนอง สัญญา 4 6,200 ล้านบาท ศูนย์การแพทย์ขอนแก่น 4,061 ล้านบาท รวมแล้วจะทำให้มีงานทั้งสิ้น 50,849 ล้านบาท
ผู้บริหาร CK ประเมินว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 25,000 ล้านบาท ปรับลดจากคาดการณ์เดิม 25,000-30,000 ล้านบาท ส่วนปีหน้าถ้าไม่มีงานใหม่จะรับรู้รายได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาทเศษ
ส่วนโครงการที่ล่าช้า ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 2.2 แสนล้านบาท กลุ่ม CP ชนะการประมูล โดย กลุ่ม CK กับ BEM ถือหุ้นรวมกัน 15% คาด CK จะได้งานก่อสร้างประมาณ 5-7 หมื่นล้านบาท แต่การลงนามยังล่าช้า ติดปัญหาการส่งมอบพื้นที่ และ โครงการก่อสร้างทางด่วนสองชั้นมูลค่า 3 หมื่นกว่าล้านบาท คาด BEM จะให้ CK ก่อสร้างโครงการนี้ กำลังรอการเจรจาในขั้นสุดท้าย หลังจากนั้นจะทำ EIA ใช้เวลา 6 เดือน ก่อนที่จะลงมือก่อสร้างได้ สำหรับโครงการอื่นๆ คือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ รถไฟทางคู่ ยังมีความล่าช้า
บล. เอเชีย เวลท์ แนะนำ “ถือ” ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 28 บาท จากเดิมคาดไว้ 30 บาท อุตสาหกรรมและธุรกิจหลักมุ่งสู่การปรับตัวลง คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/62 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 คาดรายได้ก่อสร้างทรงตัว แต่ค่าใช้จ่ายปรับตัวดีขึ้น
” เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2562-2563 ลง 40% และ 27% ตามลำดับ จากการปรับลดรายได้การก่อสร้างลง 16% และ 31% ตามลำดับ ขณะที่ปรับเพิ่มค่าใช้จ่าย SG&A เนื่องจากในปี 2562 บริษัทรับงานใหม่เข้ามาไม่ทัน ส่งผลให้ต้องโอนต้นทุนแรงงานกลับส่วนกลาง ปัจจุบัน Backlog เหลือน้อย 3.8 หมื่นล้านบาท เพียงพอรับรู้รายได้ประมาณ 1.5 ปี มีงานใหม่ที่คาดว่าจะเซ็นสัญญาในปลายปีนี้เพียง 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนงานรถไฟเชื่อม 3 สนามบินยังติดเรื่องการส่งมอบพื้นที่ คาดเซ็นสัญญาได้ทันปลายปีนี้ และเริ่มรับรู้รายได้ปลายปีหน้า “บล.เอเชียเวลท์ระบุ
ทางด้าน STEC เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/2562 มีกำไรสุทธิ 267 ล้านบาทลดลงประมาณ 12% จากที่มีกำไรสุทธิ 305 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน เกิดจากรายได้รวม 7,411 ล้านบาท คิดเป็นกำไรขั้นต้น 375.05 ล้านบาท หรือ 5.14%
ส่วน 6 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 611 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.34% จากกำไรสุทธิ 597 บาท คิดเป็นกำไรขั้นต้น 922.52 ล้านบาทหรือ 6.23%