GULF ตั้งเป้ารายได้ 3.3 หมื่นล. COD 669 MW สนใจโรงไฟฟ้าในลาว

HoonSmart.com>>”กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 3.3 หมื่นล้านบาท พุ่งขึ้น 65% คาด COD 669 MW ส่วนปี 2567 ก้าวกระโดดแตะ 1-1.3 แสนล้านบาท กำลังการผลิตติดตั้ง 11,910 MW มองหาโอกาสลงทุนในไทย-ต่างประเทศ เล็งร่วมทุนโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว คาดสิ้นปีมีคำตอบ

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า การดำเนินงานในปีนี้ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 65% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้เต็มปีของโรงไฟฟ้า SPP และในปีนี้จะมีการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)จำนวน 669 เมกะวัตต์(MW) ประกอบด้วยโรงไฟฟ้า SPP ในไทยจำนวน 4 โรง รวม 519 MW และมีโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในเวียดนาม 3 โรง จำนวน 150 MW แต่ในครึ่งปีหลัง จะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 7 โรง ประมาณ 22 วัน/โรง และจะมีปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า IPP 1 โรงในไตรมาส 4 เป็นระยะเวลา 18 วัน

ส่วนแนวโน้มระยะยาว กรรมการบริหาร GULF คาดว่ารายได้ในปี 2567 จะขึ้นไปที่ระดับ 1-1.3 แสนล้านบาท จากที่มีกำลังการผลิตติดตั้ง 5,919 MW จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 11,910 MW คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 14.3% แต่หากพิจารณาตามสัดส่วนการถือหุ้น ในปีนี้มีกำลังการผลิต 2,673 MW จะเพิ่มขึ้นมาที่ 6,721 MW ในปี 2567 โดยมีอัตราการเติบดตเฉลี่ยปีละ 19.7% หลังปี 2567 บริษัทจะได้รับเงินปันผล กว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี ส่งผลให้กระแสเงินสดของบริษัทดีมาก

นายรัฐพล ชื่นสมจิตต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GULF กล่าวว่า บริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในประเทศไทยตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP 2018) ที่เปิดให้เอกชนมีส่วนร่วมจำนวน 8,300 MW ทาง GULF มีความพร้อมในทุกส่วนและสนใจที่จะเข้าร่วมการประมูล ส่วนต่างประเทศ ปัจจุบันลงทุนโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่เวียดนามแล้วและยังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าอีกมาก นอกจากนี้ยังสนใจ ร่วมลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ประเทศลาว ขนาดมากกว่า 1,000 MW ปีนี้จะได้ข้อสรุป รวมถึงในโอมาน ที่เข้าไปลงทุนแล้ว มองหาโอกาสลงทุนเพิ่ม ในโอมานคาดหวังอัตราผลตอบแทน (IRR) อยู่ที่ประมาณ 10-14%

นายรัฐพล กล่าวว่า งบลงทุนในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้า IPP และ SPP และได้ตั้งเป้าในช่วง 5 ปี จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.4 แสนล้านบาท โดยเงินลงทุนประมาณ 75% มาจากการกู้สถาบันการเงิน ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทกำลังพิจารณาที่จะออกหุ้นกู้ มูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท