HoonSmart.com>>”ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร”CEO ใหม่ ประกาศขับเคลื่อน BAM สู่ Next Chapter มากกว่าการเป็น AMC สู่ Business Recycling Machine ช่วยพลิกฟื้นลูกหนี้เดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน สร้างกำไรเติบโตมั่นคง ตั้งเป้าซื้อ NPL 8.8 พันล้านบาท พร้อมร่วมทุนอสังหาฯ 3-4 รายทำตลาด ยืนเป้าเรียกเก็บหนี้ 1.7 หมื่นล้านบาท ปั้น NPA เป็นสินทรัพย์ลงทุนที่คนทั่วไปเข้าถึง เดินหน้ากลยุทธ์ 3P สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) กล่าวว่า การเข้ารับตำแหน่ง CEO BAM ครั้งนี้ถือว่าเป็นความท้าทายการบริหารงานภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่
ชะลอตัวและภาวะการแข่งขันสูง โดยมีเป้าหมายยกระดับให้ BAM ก้าวสู่ Next Chapter ที่เป็นมากกว่า AMC สู่ Business Recycling Machine ช่วยพลิกฟื้นลูกหนี้เดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน สร้างการเติบโตของกำไรอย่างมีเสถียรภาพ
สำหรับปีนี้ มั่นใจว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่ทำได้ 1,600 ล้านบาท โดยตั้งเป้าที่จะซื้อ NPL 8,800 ล้านบาท และยืนเป้ายอดเรียกเก็บหนี้ไว้ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้นับรวมความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นใหม่ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา หากรวมแล้วมั่นใจว่ายอดเรียกเก็บหนี้ไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท
รวมทั้งยังคงบทบาทในการเป็น”แก้มลิงแห่งชาติ”ที่เข้าไปจัดการปัญหามวลหนี้เสียไม่ไห้ไหลเข้าท่วมสู่ระบบสถาบันการเงิน ด้วยการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้งหนี้เสีย (NPL) และ สินทรัพย์รอการขาย (NPA) อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลคความเสี่ยงในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความผันผวน
ทั้งนี้ จะมีการร่วมทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 3-4 ราย ในการร่วมกันปรับปรุงทรัพย์และขายทรัพย์ร่วมกัน จากปัจจุบันที่ BAM สามารถปรับปรุงทรัพย์ได้ราว 1 หมื่นยูนิต เป็นเงิน 200 ล้านบาท การร่วมมือกันจะทำให้สามารถทำได้มากขึ้น โดยจะมีการลงนามความร่วมมือ(MOU) และเปิดตัวในเดือน มิ.ย.นี้
Property For All
รวมทั้ง ยังสร้างโอกาสในการลงทุน โดยการนำทรัพย์สินเหล่านี้มาสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่งเป็น
การสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของ BAM ในฐานะผู้นำธุรกิจ AMC ที่พร้อมเคียงข้างระบบบบเศรษฐกิจและสร้างการเติบโตให้กับสังคมไทยได้อย่างยั่งยืน

พร้อมเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) เพื่อช่วยแก้ไขหนี้อย่างยั่งยืนควบคู่การสร้างวินัยทางการเงิน พร้อมทั้ง บริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การลงทุนใน NPA ของ BAM เป็น Investment of Choice เป็น โอกาสทองของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มือสอง
ถึงแม้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีปัจจัยที่ท้าทายด้วยเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า พร้อมกับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แต่ยังสามารถนำทรัพธ์สินเหล่านี้มาสร้างมูลค่าเพิ่ม นำเสนอลูกค้าตามกลุ่มเป้าหมาย (Target Segment) ด้วยช่องทางและแพลตฟอร์มต่างๆ ที่หลากหลาย โดย BAM พร้อมมอบทางเลือกเพื่อรองรับความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้าและทุกวัตถุประสงค์การใช้งานทำให้ทรัพย์เป็น Property For All
บริษัทฯ จะทำโครงการ BAM select คัดทรัพย์ฯคุณภาพ ราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป นำมาขาย ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 300 ชิ้น ทั้งที่ดินเปล่า บ้านเดี่ยว อาคารชุด เพื่อจับกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ และมีเงินเย็น เป็นการซื้อเพื่อการลงทุนในระยะยาว จากการปล่อยเช่า
“เราต้องการทำให้ NPA เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ลงทุนระยะยาว เข้าไปเจาะกลุ่มนักลงทุนที่มีเงินเย็น เพราะปัจจุบันตลาดหุ้นก็ยังไม่ดี ฝากเงิน พันธบัตร ผลตอบแทนก็ต่ำ แต่ NPA ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า 20% และมีเสถียรภาพมากกว่า”ดร.รักษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ภาพรวมหนี้ด้อยคุณภาพ NPL ในระบบสถาบันการเงิน(ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ) ณ สิ้นปี 2567 มีจำนวน 2,026,000 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขาย NPA (ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ) จำนวน 193.526 ล้านบาท

ขณะที่ BAM มี NPA ในความดูแล ณ สิ้นปี 2567 จำนวน 503,603 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24.86% ของระบบสถาบันเงิน รวมทั้งมี NPA จำนวน 74.517 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38.50% ของระบบสถาบันการเงิน
“3P”เพิ่มความเชื่อมั่นผู้ถือหุ้น-นักลงทุน
แผนกลยุทธิ์เชิงรุก “3P” ได้แก่ People,Partnerships, และ Platforms/ Process เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน

สำหรับ P ตัวแรกคือ People เป็นการสร้างคุณค่าให้กับ 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย ผู้ถือหุ้น ด้วยการยกระดับองค์กรให้ได้รับการยอมรับในระดับชาติ โดยตอกย้ำบทบาทการเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำของประเทศ พร้อมทั้งสร้างความไปร่งใสและธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นระยะยาว โดยยังคงยืนนโยบายปันผลสูงต่อเนื่อง
ส่วนที่สองคือลูกหนี้และลูกค้า มุ่งมั่นให้โอกาสลูกหนี้ NPL ในการฟื้นฟูกิจการหรือสถานะทางการเงินของตนโดยปรับโครงสร้างหนี้และหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน ขณะที่ลูกค้า NPA จะได้รับการบริการที่รวดเร็วแบบมืออาชีพ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดในการซื้อทรัพย์ BAM
ส่วนที่สามคือพนักงานและการพัฒนาองค์กร โดยพนักงานคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดขององค์กร จึงเร่งสร้างศักยภาพสำหรับอนาคตและการเติบโตของพนักงานที่เหมาะสมพร้อมๆ กับระบบสวัสดิการที่ตอบโจทย์ (Flexi Benefits) สำหรับคนรุ่นใหม่
ในส่วน Partnerships ให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์(Developers) ในการปรับปรุงและเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินรอการขาย รวมทั้งสนับสนุนลูกหนี้ในภาคธุรกิจเชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพ โดยให้ความช่วยเหลือผ่านความร่วมมือจากพันธมิตรทางการเงินในการจัดหาสินเชื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ลูกหนี้กลุ่มนี้ เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน
“ปัจจุบันเรามีธนาคารพาณิชย์ 5 แห่งที่ร่วมสนับสนุนสินเชื่อ เรามีแผนจะเพิ่มพันธมิตรที่เป็นนันแบงก์เพิ่มเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าของเราอีกในช่วงปลายปีนี้”ดร.รักษ์ กล่าว
ดร.รักษ์ กล่าวว่า อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ 3P คือการพัฒนา Platfoms /Process โดยเดินหน้าปรับเปลี่ยนองค์กรเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ (Digigial Transformation) นำเทคในโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับการให้บริการลูกค้า โดยได้ลงทุนในการพัฒนาระบบ AI เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจและปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในการบริหารจัดการข้อมูลลูกหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถติดตามสถานะของลูกหนี้แต่ละรายได้อย่างใกล้ชิด วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และนำเสนอทางเลือกหรือวิธีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระของลูกหนี้แต่ละรายได้อย่างใกล้ชิด ลดขั้นตอนด้วยกระบวนการ Streamline Process
ดึง AI ช่วยเลือกทรัพย์
ทำการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย BAM Digital พัฒนาโครงสร้าง IT ด้วยระบบ AI และพัฒนา BAM
Choice Application ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกหนี้ซึ่งสามารถชำระเงิน ตรวจสอบภาระหนี้คงเหลือ การติดต่อกับเจ้าหน้าที่ การขอเอกสารสำคัญ ในขณะที่เมนู BAM Select จะช่วยลูกค้าค้นหาทรัพย์ได้ง่ายและสะสะดวกยิ่งขึ้น โดยค้นหาและเปรียบเทียบตามช่วงราคาพื้นที่ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยตนเองผ่านสมาร์ทโฟน
รวมถึง BAM Auto ซึ่งเป็นระบบ Automation ที่จะมาช่วยลดการทำงานที่ซ้ำ ซ้ำซ้ำซ้ำและละลดการทำงานแบบ Manual เพื่อนำไปสู่การใช้ AI ที่ช่วยจำลองการออกแบบทรัพย์ความความต้องการของลูกค้า เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายทรัพย์ รวมทั้งยกระดับประสบการณ์ค้นหาทรัพย์ด้วย AI อัจฉริยะ
