“คิงส์ฟอร์ด” คาดดัชนีทรงตัวรอหารือสหรัฐฯสัปดาห์หน้า แนะ HMPRO-TACC

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีวันนี้ทรงตัว รอการหารือข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-ไทย สัปดาห์หน้า แนวรับดัชนี SET ที่ 1,110 – 1,120 จุด แนวต้าน 1,140 – 1,150 จุด แนะทยอยซื้อช่วงดัชนีอ่อนตัวในกลุ่ม Domestic Play & Defensive ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ปิดลบ จากต้นสัปดาห์บวกรับทรัมป์ยกเว้นภาษีนำเข้าสมาร์ทโฟทและคอมพิวเตอร์จากจีน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นแนะ HMPRO, TACC

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,110 – 1,120 จุด แนวต้าน 1,140 – 1,150 จุด คาดดัชนีทรงตัว ระหว่างรอการหารือข้อตกลงการค้าสหรัฐ – ไทยในสัปดาห์หน้า แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวในกลุ่ม Domestic Play & Defensive เช่น CPALL,BJC,HMPRO,ADVANC

ช่วงต้นสัปดาห์ ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศยกเว้นการเก็บภาษีบางรายการกับจีนเป็นการชั่วคราว เช่น สมาร์ทโฟท, คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์อิเล็ก ฯ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้สหรัฐเริ่มทยอยลดแรงกดดัน มาตรการด้านภาษีกับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ส่งผลให้ความผันผวนในตลาดหุ้นและพันธบัตรทั่วโลกปรับลดลง ในส่วนทางการไทยจะเริ่มเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐในวันจันทร์หน้า

สำหรับประเด็นที่ตั้องติดตามสัปดาห์นี้ คือ การเริ่มรายงานกำไร Q1/68 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ( BB.Consensus) คาดทรงตัว -0.8% YoY แต่ +8.1% QoQ จากคาดการณ์ค่าใช้จ่ายและสำรอง ECL ปรับลดลง QoQ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.38%, S&P500 -0.17%, Nasdaq -0.05% จากแรงขายหุ้น Boeing -2.4% หลังรัฐบาลจีนสั่งยกเลิกการรับมอขเครื่องบินล็อตใหม่ และ J&J -0.5% หลังยอดขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่ำกว่าคาดการณ์ แต่ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร เช่น Bank of America +3.6%, Citigroup +1.7% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.63% ได้แรงหนุนจากกลุ่มยานยนต์ +2.3% หลัง ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังพิจารณาปรับลดภาษี 25% ที่เรียกเก็บกับเม็กซิโก, แคนาดา และประเทศอื่น ๆ

หุ้นแนะนำ HMPRO (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.90 บาท) ราคาหุ้นมีปัจจัยหนุนจากการประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 7 พันล้านบาท สำหรับปี 68 ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายเติบโต 3-5% โดยมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ 2-3% มีแผนเปิดโฮมโปร 7 สาขาและเมก้าโฮม 5 สาขา ด้วยงบลงทุน 7-8 พันล้านบาท ส่วน GPM คาดว่าจะสูงขึ้นจากปีก่อนจากสัดส่วนสินค้าที่เป็น private brand

เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ อิงจาก consensus ปี 68 ตลาดคาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.87 พันล้านบาท +6%YoY เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปท่ามกลางความท้าทายจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว แต่ราคาหุ้นอยู่ในโซนต่ำ ได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านและอาคารหลังเกิดแผ่นดินไหว

หุ้น TACC (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.00 บาท) เข้าสู่ฤดูร้อนเป็น High Season ของกลุ่มเครื่องดื่ม คาดว่าภาพรวมการดำเนินงานยังมีแรงหนุนต่อเนื่องจากธุรกิจ B2B จาก 7-11 ขณะที่สินค้าใหม่ๆยังมีต่อเนื่อง โดยล่าสุด 6 มีนาคม – 30 เมษายน 2568 ออกเครื่องดื่มใหม่ “น้ำผึ้งมะนาว” (Honey Lime)

ด้าน TACC* เอง ปีนี้ ตั้งเป้าผลักดันรายได้ให้เติบโต Double Digit ทะลุ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ TACC* จะอยู่ที่ระดับ 276 ล้านบาท (+11.61%YoY) และ 324 ล้านบาท (+17.39%YoY) ตามลำดับ

 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–