HoonSmart.com>>คลังเดินหน้ากองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่นักลงทุนทั่วไป มูลค่ารวมไม่เกิน 1 แสน -1.5 แสนล้านบาท จะนำเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในไตรมาส 3/67 ระยะเวลาลงทุนเบื้องต้น 10 ปี เพิ่มทางเลือกในการออมแก่ประชาชน ได้เงินปันผลในแต่ละปี ตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่น้อยกว่าขั้นต่ำและไม่เกินขั้นสูง ดูแลเงินต้น เพื่อสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ บล.หยวนต้าชู 6 หุ้นเด่น
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดทุนไทยในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าค่อนข้างผันผวน เนื่องจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ จากปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ เช่น ความผันผวนของตลาดการเงินโลก และปัญหาหนี้ครัวเรือนภายในประเทศ เป็นต้น โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่านักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย รวมมูลค่ากว่า 5.3 แสนล้านบาท ขณะที่มูลค่าการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงมูลค่าการระดมทุนของตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้มีอัตราที่ชะลอตัวลง สะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจที่ไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ประชาชนและนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ ยังคงมีสภาพคล่องส่วนเกินและมองหา การลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีและมีความมั่นคงในระยะยาว
กระทรวงการคลังได้วางแนวทางในการระดมทุนผ่าน “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” ประมาณ 1 แสน – 1.5 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุน โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. และนำหน่วยลงทุนดังกล่าวเข้าจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้
ส่วนแนวทางการลงทุนของกองทุนฯ จะเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีผลตอบแทนที่ดี มีความมั่นคงในระยะยาว ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี คาดว่าการระดมทุนของกองทุนฯ ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มทางในเลือกการออมและการลงทุนให้กับประชาชนและนักลงทุนทั่วไปในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ และส่งเสริมให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ซึ่งจะช่วยสร้างแรงกระตุ้นในการลงทุน และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
“รัฐบาลได้ออกมาตรการสนับสนุนตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มาตรการ Thai ESG เพื่อส่งเสริมการออมและการลงทุนระยะยาวในกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล และล่าสุดได้เตรียมการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง นอกจากนี้กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างพิจารณา ออกมาตรการสนับสนุนตลาดทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ” นายพิชัย กล่าว
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานของกองทุนรวมวายุภักษ์ กล่าวว่า ในวันนี้ (13 ส.ค.2567) คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบเกี่ยวกับการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เป็นที่เรียบร้อยโดยเสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไปและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี จะได้รับเงินปันผลในแต่ละปีตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ และไม่เกินกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นสูง ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและขั้นสูงจะเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี
กองทุนฯ จะมีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. โดยจะมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินลงทุนตามแนวทางการชำระคืนเงินลงทุนที่มีลักษณะเป็น water fall และกำหนดสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนฯ ต่อเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. และมาตรการต่างๆ เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน หากสัดส่วนดังกล่าวลดลง
กองทุนฯ จะเข้าลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งแบบเชิงรุก (Active Investment) และแบบเชิงรับ (Passive Investment) โดยส่วนใหญ่จะลงทุนในตราสารทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เน้นบริษัทที่มีผลตอบแทนที่ดี มีความมั่นคงในระยะยาว ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ขั้นตอนถัดไปจะมีการสำรวจความเห็นของนักลงทุนสถาบันเพื่อกำหนดอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ และอัตราผลตอบแทนขั้นสูง กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุน ช่องทางการเสนอขายหน่วยลงทุน และสัดส่วนการเสนอขายต่อผู้ลงทุนแต่ละประเภท
ทั้งนี้ กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เป็นกองทุนรวมประเภทกองทุนปิดจัดตั้งขึ้นในปี 2546 และได้มีมติแปรสภาพเป็นกองทุนเปิดเมื่อปี 2556 โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ที่จะบริหารจัดการหลักทรัพย์ที่รัฐถือครองให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาวและมั่นคง ลงทุนในกิจการที่มีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อประเทศในเชิงเศรษฐกิจและจำเป็นต้องการการส่งเสริมจากภาครัฐ ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุนของประเทศ และเพิ่มทางเลือกในการออมและ การลงทุนให้แก่ประชาชน
ปัจจุบันกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 300,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 15% ภายหลังแปรสภาพกองทุนเมื่อปี 2556 ส่วนใหญ่ลงทุนในตราสารทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบางส่วนลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้รับเงินปันผลจากกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กว่า 40,000 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี เป็นผู้จัดการกองทุน ส่วนหุ้นที่กองทุนถือ 5 อันดับแรกของพอร์ตหุ้นสามัญ ได้แก่ PTT,SCB,TTB,KTB,BCP
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ให้ปันผลดี และ SET ESG Rating สูง อาทิ ADVANC- PTT-SCB-KTB- CPALL-SCC
บล.กสิกรไทย มองกองวายุภักษ์จะช่วยสร้างแรงกระตุ้นในการลงทุน และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มองหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร คาดได้อานิสงค์บวกจากเม็ดเงินใหม่ ได้แก่ PTT, BCP, SCB, TTB, KTB
บล.ฟินันเซีย ไซรัส สรุปรายละเอียดจากการแถลงจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 1 เบื้องต้น ดังนี้
– เป้าหมายระดมทุน 1.5 แสนลบ.
– เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง และให้ความสำคัญกับ ESG
– ระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี
– เงินที่ได้ลงทุนใน SET ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ
– ได้รับผลตอบแทนตามที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ และไม่เกินกว่าขั้นสูง
– มีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. ก่อน (มีบุริมสิทธิ) เป็น Water Fall
– รายละเอียดของแต่ละเงื่อนไขยังไม่ระบุ ให้รอความชัดเจนในหนังสือชี้ชวนเดือน ก.ย.
– ผู้จัดการกองทุนยังคงเป็น KTAM และ MFC
เรามองเป็นบวกและช่วยหนุน SET Index ให้ฟื้นตัวได้อย่างมีนัยยะ โดยกองทุนวายุภักษ์ 1 ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสามัญอยู่ที่ 88.58% ของ NAV ทำให้มีโอกาสเห็นแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดใหญ่และจ่ายปันผลในเกณฑ์ที่ดี เช่น กลุ่มธนาคาร สื่อสารฯ พลังงาน ค้าปลีก เป็นต้น