เอไอเอส-ออราเคิล ลงขัน 8 พันล. เปิดบริการ Hyperscale Cloud Q1/68

HoonSmart.com>>เอไอเอส จับมือ ออราเคิล ลงขัน 8,000 ล้านบาท ตั้งจุดบริการข้อมูลคลาวด์ระดับ Hyperscale Cloud ครั้งแรกในไทย คาดเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2568 ชู 4 จุดเด่นแตกต่างจากการใช้คลาวด์ที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ หนุนผู้ประกอบการไทยทรานสฟอร์มองค์กรสู่ธุรกิจดิจิทัล ด้าน IDC คาดธุรกิจจะมีการใช้จ่ายบริการคลาวด์ในประเทศ(CAGR) สูงถึง 31.5%

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ได้ร่วมกับบริษัทออราเคิล ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ระดับโลก Oracle Alloy ลงทุนจัดตั้งระบบข้อมูลคลาวด์ในชื่อ เอไอเอส คลาวด์ ซึ่งเป็นบริการคลาวด์ระดับ Hyperscale Cloud ครั้งแรกในไทย คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2568 ซึ่งเป็นสัญญาความร่วมมือพิเศษ 7 ปี

ทั้งนี้ เอไอเอส จะทำการลงทุนด้านการทำดาต้าเซอร์วิส และการโอเปอร์เรชั่น ทางออราเคิล จะลงทุนด้านอุปกรณ์ เทคโนโลยีคลาวด์ เอไอ รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ จะทำให้ผู้ประกอบการไทย และ บริษัทข้ามชาติที่ทำธุรกิจในไทย เข้าถึงบริการคลาวด์ของออราเคิล โอซีไอ ที่มีมากกว่า 100 บริการได้ ภายใต้ความปลอดภัยสูง และการปกป้องข้อมูลที่เป็นไปตามข้อกำหนดด้านการจัดเก็บข้อมูลตามกฎหมายไทย ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลทางธุรกิจจะไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ ซึ่งความร่วมมือในรูปแบบนี้ทางออราเคิลจะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับคนไทยด้วย ซึ่งจะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมีการเติบโตตามไปด้วย


ธุรกิจบริการคลาวด์ในไทยมีมูลค่าเป็นแสนล้านบาท โดยประเทศไทย จะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในประเทศไทยนับจากปี 2567-2573 ประมาณ 3-4 พันล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯเป็นรายเดียวในไทยที่จะให้บริการ Hyperscale Cloud ที่เป็นอันดับ 1 ของโลก ที่มี 2 ระบบ คือ ระบบการป้องกันศูนย์ข้อมูลหลักล่ม และ ระบบการสำรองข้อมูลที่สามารถกู้มาทำงานต่อได้ทันที ซึ่งผู้ให้บริการรายอื่นยังไม่มี โดยรายได้ของเราจะมาจากการขายซอฟต์แวร์และบริการให้กับภาคธุรกิจ และส่งต่อให้กับทางออราเคิล”นายสมชัย กล่าว

ปัจจุบัน เทคโนโลยีคลาวด์ เข้ามามีส่วนสำคัญอย่างมากในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจแบบดั้งเดิมไปสู่ธุรกิจดิจิทัล เพื่อเพิ่มศักยภาพและยกระดับขีดความสามารถในการรับมือกับความท้าทาย และการแข่งขัน สร้างการเติบโตให้กับภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และภาครัฐ ดึงดูดนักลงทุน และติดสปีดเครื่องยนต์เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

“บริการเอไอเอส คลาวด์ จะสร้างความแตกต่างจากผู้ให้บริการคลาวด์รายอื่นๆ ที่มีการเก็บข้อมูลไว้ที่ต่างประเทศ ถึง 4 ด้าน คือ หนึ่ง ช่วยลดต้นทุนโดยรวมของเจ้าของ (CTO) สอง ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเพราะการใช้คลาวด์ต่างประเทศต้องจ่ายเงิน การหันมาใช้เอไอเอส คลาวด์ จ่ายเป็นเงินบาท ไม่มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่มีการเปลี่ยนแปลง สาม เรื่องกฎหมาย ที่การกำกับดูแลอยู่ภายใต้กฎหมายไทย และ สี่ เครือข่ายที่อยู่ในประเทศไทยทำให้มีความเร็วในการดึงข้อมูล และการพัฒนาแอพพลิเคชั่น โดยไม่ต้องไปดึงข้อมูลบนคลาวด์ที่อยู่ต่างประเทศกลับมา ลดความเสี่ยงด้าน International gateway ลงได้มาก ที่สำคัญ ออราเคิลไทย และเอไอเอส จะสอนคนเรื่องคลาวด์ และการพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่อเนื่อง”นายสมชัย กล่าว

โอกาสผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศพุ่ง

นายการ์เร็ตต์ อิลจ์ รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกและญี่ปุ่น บริษัทออราเคิล กล่าวว่า การที่ออราเคิล เลือกมาเปิดจุดบริการคลาวด์ที่ไทย เพราะไทยเป็นตลาดสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ และความร่วมมือของ Oracle Alloy กับ เอไอเอส จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมขอประเทศ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้เอไอเอส กลายเป็นผู้ให้บริการ Hyperscale Cloud สามารถพัฒนาบริการใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น

รวมถึง นำเสนอ Sovereign Cloud และความสามารถด้านเอไอ ให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศ ภายใต้ข้อกำหนดด้านกฎหมายด้านมาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลที่แตกต่างกัน และช่วยให้เอไอเอส สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้แต่ละรายได้ดีขึ้น

นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า สำหรับ บริการคลาวด์ระดับ Hyperscale Cloud ของออราเคิลในไทย ผ่านบริการ AIS Cloud บนศูนย์ข้อมูลของเอไอเอส หรือ AIS Data Center จะช่วยปลดล็อคศักยภาพในการเปลี่ยนผ่านองค์กรไปสู่ธุรกิจดิจิทัลได้เร็วขึ้น เพราะจะช่วยให้ต้นทุนเวลาในการใช้คลาวด์ลดลง เมื่อเทียบกับการใช้คลาวด์ที่มีที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ การบริการที่ต้องการระดับความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัยสูง เพราะการออกแบบระบบคลาวด์ของออราเคิลเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่มีการปิดจุดบอดคลาวด์เจนเนอเรชั่น 1 ซึ่งในตลาดส่วนใหญ่เป็นคลาวด์เจน 1 นี่จึงเป็นเหตุผลที่ประกาศได้ว่าบริการคลาวด์ของเอไอเอส คลาวด์ เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย

ในกรณี ที่บริษัทบริษัทข้ามชาติ ที่ทำธุรกิจในไทย สามารถเปลี่ยนการใช้บริการคลาวด์ของออราเคิล ที่มีจุดบริการในประเทศอื่นๆ มาใช้บริการกับเอไอเอส คลาวด์ได้ โดยทางออราเคิล พร้อมที่จะย้ายข้อมูลมาอยู่บนคลาวด์ของเอไอเอสได้ เพื่อช่วยให้ลดต้นทุนเวลาในการใช้คลาวด์ลงได้ เพราะการคิดค่าบริการคลาวด์ จะคิดจากเวลา ซึ่งจากตัวอย่างลูกค้าที่เคยใช้คลาวด์ที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ เคยใช้เวลาประมวลผล 10 นาที พอมาใช้คลาวด์ในไทย จะลดเวลาประมวลผลเหลือ 7 นาที

น.ส.แดฟนี่ ชุง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยบริการคลาวด์และซอฟต์แวร์ IDC เอเชีย/แปซิฟิก กล่าวว่า IDC คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้าน Sovereign Cloud หรือผู้ให้บริการคลาวด์และผู้ใช้บริการคลาวด์ตั้งอยู่ในประเทศเดียวกัน จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 31.5% ต่อปี (31.5% CAGR) สำหรับกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิค (ไม่รวมญี่ปุ่น) โดยองค์กรในกลุ่มประเทศดักล่าว 19% มีการคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายสำหรับ Sovereign Cloud จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์คลาวด์แบบผสมผสาน (Hybrid Cloud) ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยหน่วยงานกำกับดูแลและกฎระเบียบ รวมทั้งความต้องการที่จะทำให้กระบวนการทำงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น