HoonSmart.com>>บล.ทรีนีตี้แนะนำซื้อ BGRIM ราคาพื้นฐาน 44 บาท และถือ GPSC ที่มูลค่าเหมาะสม 72 บาท ส่งสัญญาณปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 จากการปรับขึ้นค่า Ft และได้โรงไฟฟ้าเพิ่ม บล.ดาโอยังคงเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นไฟฟ้า
บล.ทรีนีตี้ออกบทวิเคราะห์ กรณีกกพ. ปรับลดค่า Ft งวด ม.ค. – เม.ย.2566 กลุ่มอื่นจาก190.44 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 154.02 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นค่าไฟลดลงจาก 5.69 บาท เป็น 5.33 บาท และกลุ่มประเภทไฟฟ้าบ้านที่อยู่อาศัยคงที่ ค่าไฟที่ 4.72 บาท ซึ่งการปรับลดค่าไฟในส่วนของลูกค้าธุรกิจและอุตสาหกรรม (IU) เป็น sentiment เชิงลบกลับกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP แต่ค่า Ft งวด ม.ค. – เม.ย. ยังคงปรับขึ้น 60.59 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2565 อยู่มาก
สำหรับ BGRIM มีลูกค้า IU ในประเทศสัดส่วน 24% การขึ้นค่าไฟ 1 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้กําไรของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 24 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นประมาณ 1,454 ล้านบาทในปี 2566 (ประมาณการบนสมมุติฐานว่าจะไม่มีการลดค่าไฟตลอดทั้งปี)
ส่วน GPSC มีสัดส่วยลูกค้า IU 22% การเพิ่มขึ้นของค่าไฟ 1 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้กําไรของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 63 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นประมาณ 3,817 ล้านบาท (ประมาณการบนสมมุติฐานว่าจะไม่มีการลดค่าไฟตลอดทั้งปี)
ดังนั้นจึงยังคงแนะนําให้ “ถือ” GPSC ที่ราคาพื้นฐาน 72 บาท และ “ซื้อ” BGRIM ที่ราคาพื้นฐาน 44 บาท นอกจากนี้อาจจะมีการปรับประมาณการกําไรของ GPSC และ BGRIM ในปีหน้าจากการปรับค่า Ft และการได้โรงไฟฟ้าเพิ่ม
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่า การปรับค่า Ft ลดลงมาที่ 5.33 บาท/หน่วย จะยังเป็นอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงกว่าระดับปัจจุบันที่ 4.72 บาท/หน่วย ประเมินยังคงหนุนให้ผลประกอบการกลุ่มโรงไฟฟ้าฟื้นตัวได้ อิงค่าก๊าซธรรมชาติไม่สูงกว่าระดับปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ (ที่ 550 บาท/MMBTU ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า ) โดยยังคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มโรงไฟฟ้า “มากกว่าตลาด”
ด้านราคาหุ้น BGRIM ยังคงปรับตัวขึ้น ซื้อขายที่ 40.50 บาท บวก 0.75 บาทหรือ +1.89% และ GPSC ซื้อขายที่ 73.25 บาท บวก 0.75 บาทหรือ +1.03%