TEGH วิ่งฉิว รับกำไรพุ่ง27%เป็น  521 ล้านบ. 9 เดือนปี 65

HoonSmart.com>>”ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์” โชว์รายได้ 9 เดือนปีนี้  11,807.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.73% กำไรสุทธิ  521  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.10% ส่วนไตรมาส  3  รายได้แตะ 4,248.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.12% กำไรสุทธิ 153.95 ล้านบาท จากปริมาณขายและราคาเฉลี่ยในธุรกิจยางธรรมชาติ พร้อมอัพกำลังการผลิตยางแท่งเป็น 328,000 ตันจาก 240,000 ตัน/ปี  หนุนรายได้ปีนี้เติบโตเข้าเป้า 30%

หุ้นบริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) วิ่งแรงในช่วงบ่ายวันนี้ ราคาขึ้นมาซื้อขายที่ 4.56 บาท บวก 0.06 บาทหรือ +1.33% จากระหว่างวันลึกที่สุด 4.30 บาท

หลังจากนายเฉลิม โกกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEGH เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ อยู่ที่ 11,807.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.73% จากช่วงปีก่อนที่มีรายได้ 8,102.63 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 521.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.10% จากช่วงปีก่อนที่ทำได้ 410.08 ล้านบาท

ขณะที่ในไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ อยู่ที่ 4,248.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.12% จากช่วงปีก่อนที่มีรายได้ 2,888.03 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 153.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.33% จากช่วงปีก่อนที่ทำได้ 151.93 ล้านบาท

“รายได้ที่เพิ่มขึ้นโดยส่วนใหญ่มาจากรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติเป็นหลัก ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มส่วนใหญ่ มาจากำไรของธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายจากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรม” นายเฉลิม กล่าว

นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ  TEGH กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้น่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 11,087.76 ล้านบาท โดย 9 เดือน มีรายได้แล้ว 11,807.97 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 45.73% จากช่วงปีก่อน โดยในปีนี้ มีการขยายกำลังการผลิตยางแท่งมาอยู่ประมาณ 328,000 ตัน ซึ่งเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว และจะขยายเป็น 416,000 ตันในปีหน้าหน้า เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตยางแท่ง Top 5 ของประเทศ

สำหรับธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ทำให้สามารถขยายกำลังการผลิตได้อีก 42% และธุรกิจพลังงานทดแทนและการบริหารจัดการกากอินทรีย์ บริษัทฯ วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ จาก 23 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปี 2565 เป็น 67 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปี 2568 หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 191% และเพิ่มกำลังการผลิตบ่อหมักกากอินทรีย์ประเภทของแข็ง (SOW) เพื่อรองรับเสียที่ได้จากการผลิตยางแท่ง

ในปีนี้บริษัทฯ วางแผนจะ COD โครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ ระยะที่ 1 ภายในไตรมาส 4/2565 ซึ่งเดิมบริษัทฯใช้ก๊าซชีวภาพทดแทน LPG ในส่วนของธุรกิจยางพาราได้ถึง 89% และใช้ก๊าซชีวภาพเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตพลังงานหมุนเวียนใช้แทนไฟฟ้าจากภายนอกได้ 51% ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น