CEYE ครึ่งปีกำไรพุ่ง 145% ปันผล 15 สต. งานโปรดักชั่นโฆษณาคึกคัก

HoonSmart.com>> “ตาชำนิ” มั่นใจครึ่งปีหลัง 65 อุตสาหกรรมครีเอทีฟ โปรดักชั่นโฆษณาคึกคัก รับโควิดผ่อนคลาย งานไหลเข้าต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี คาดรายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% ตามนัด พร้อมต่อยอดอีโคซิสเต็ม ในฐานะ Total Creative Marketing & Production Solutions รับปีหน้าครบวงจร ด้านผลงานครึ่งปีแรกรายได้กว่า 175 ล้านบบาท เพิ่มขึ้น 42% กำไรสุทธิพุ่งกว่า 145% เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.15 บาท

สุวรรณี สุวรรณแสงโรจน์

นางสาวสุวรรณี สุวรรณแสงโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ตาชำนิ (CEYE) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจครีเอทีฟ และโปรดักชั่นโฆษณา มีการฟื้นตัวในอัตราเร่ง ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน พบว่าหลายธุรกิจเริ่มกลับมาโปรโมทสินค้า และจัดทำแคมเปญต่างๆ มากขึ้น เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงโควิดคลี่คลาย สนับสนุน CEYE ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 2565 (ม.ค.- มิ.ย.2565) มีรายได้จากการบริการ 175.47 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 42.10% กำไรสุทธิ 22.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 145.01%

ด้านผลประกอบการงวดประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 67.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 24.56% มีกำไรสุทธิ 0.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 317.59% และมีอัตรากำไรขั้นต้น 22.47% อัตรากำไรสุทธิ 1.17% เนื่องจากรายได้ที่กลับมาเติบโต หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ผ่อนคลาย รวมถึงอุปสงค์ของอุตสาหกรรมและความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และการประกาศยกเลิกมาตรการ Test and GO มีผลบังคับใช้วันที่ 1 พ.ค.2565 สนับสนุนบรรยากาศการลงทุนในประเทศให้คึกคัก การจัดกิจกรรม อีเวนท์ต่างๆ ทำให้งานในกลุ่มต่างประเทศเข้ามาเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี CEYE มีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นในไตรมาสนี้ เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดงานบางกอกไพรด์ 2022 เรนโบว์โทเปีย วัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อขับเคลื่อนสังคมความหลากหลายให้เกิดความเท่าเทียม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานความรับผิดชอบต่อสังคม และสะท้อนการทำงานอย่างเข้มข้น ภายใต้สื่อออนไลน์ของบริษัทอย่าง SPECTRUM ที่ผสานความร่วมมือกับหลายภาคส่วน เชื่อจะเกิดพลังในระยะยาว นอกจากนี้ มีค่าใช้จ่ายในการ IPO และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ หากนำค่าใช้จ่ายและรายได้ส่วนนี้ออก บริษัทจะมีกำไรสุทธิที่ 5.85 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19

ธุรกิจหลักของ CEYE ในช่วงไตรมาส 2/2565 คือ การให้บริการผลิตภาพนิ่งมีสัดส่วน 44.88% บริการผลิตภาพเคลื่อนไหว 29.37% บริการตกแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ 10.22% เช่าสตูดิโอ 2.90% และอื่นๆ ในธุรกิจบริหารสื่อออนไลน์ และผลิตสื่อออนไลน์ 10.36% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ

มองทิศทางครึ่งปีหลัง ความต้องการด้านครีเอทีฟ และโปรดักชั่นโฆษณายังคงมีแนวโน้มสดใส ด้วยความครบวงจรของบริษัทฯ มุ่งสู่ Total Creative Marketing & Production Solutions. ฐานลูกค้าของ CEYE ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รถยนต์ การเงิน และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น

CEYE พร้อมตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า รับภาพรวมเม็ดเงินที่เข้าสู่อุตสาหกรรมสื่อโฆษณา ภายใต้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยล่าสุด บริษัท นีลเส็น ประเทศไทย จำกัด รายงานถึงมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วง ม.ค. – มิ.ย.2565 มีมูลค่าเม็ดเงินสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มูลค่าอยู่ที่ 58,365 ล้านบาท จากเดิม 53,988 ล้านบาท สะท้อนทิศทางเชิงบวก

อย่างไรก็ดี สำหรับแผนการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนใช้ขยายธุรกิจตามโครงการในอนาคตที่วางไว้ ซึ่งคาดจะเห็นความชัดเจนในโครงการต่างๆ ภายในสิ้นปีนี้ สนับสนุนโอกาสใหม่ๆ และสนับสนุนอีโคซิสเต็มของ CEYE ขึ้นแท่นผู้นำด้านครีเอฟที่ครบวงจร และเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสม ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น กำหนดวันปิดสมุดทะเบียน (Record Date) ในวันที่ 30 ส.ค.นี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 13 ก.ย.2565 นับเป็นครั้งแรกของ CEYE ในการประกาศจ่ายปันผลทันทีหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อเดือนเม.ย.2565 ที่ผ่านมา สร้างความเชื่อมั่นในแผนการเติบโต โดยในช่วงต้นปี บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน รายได้รวมอยู่ที่ 272.74 ล้านบาท กำไรสุทธิ 28.45 ล้านบาท มั่นใจจะเป็นไปตามนั้น