DTAC กำไร 726 ลบ.ร่วง12% เจอพิษศก.-แข่งขันรุนแรง Q1/65

HoonSmart.com>>”ดีแทค”เปิดผลงานไตรมาส 1/65  กำไร 726 ล้านบาท ลดลง 96 ล้านบาท จากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า การแข่งขันรุนแรงขึ้น  เพิ่มประสิทธิภาพ ลดรายจ่าย หนุน EBITDA แข็งแกร่ง ผู้ใช้บริการใหม่โต 3 แสนราย เป็น 19.9 ล้านราย  เร่งขยายบริการ 5G ให้ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานใน 77 จังหวัด ภายในไตรมาส  3 นี้ แนวโน้มรายได้จากการให้บริการจะออกมาอยู่ในช่วงต่ำ EBITDA จะอยู่ในช่วงแนวโน้มที่ให้ไว้

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 1/2565 มีกำไรสุทธิ 726 ล้านบาท เท่ากับกำไรหุ้นละ 0.31 บาท ลดลงจำนวน 96 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 11.68% เทียบกับกำไรสุทธิ 822 ล้านบาทหรือ 0.35 บาทในช่วงเดียวกันปีก่อน

นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น กล่าวว่า ตลอดไตรมาส1ของปี 2565 ประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ในขณะที่การแข่งขันก็ทวีความรุนแรง แต่ดีแทคยังคงสานต่อจุดมุ่งหมายในด้านกลยุทธ์ ซึ่งสะท้อนผ่านการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น และปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าที่มากขึ้น บริษัทจะดำเนินการขยายบริการ 5G ให้ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานใน 77 จังหวัด ภายในไตรมาสที่ 3/2565 พร้อมเร่งขยายเครือข่ายบนคลื่นย่านความถี่ต่ำ

ณ สิ้นไตรมาส 1/2565 เครือข่าย 5G ของดีแทคบนคลื่น 700 MHz ได้ขยายครอบคลุมพื้นที่ 34 จังหวัด และมีสถานีฐานรวมกว่า 15,600 แห่งบนคลื่น 700 MHz ยังคงรักษาระดับคะแนนความพึงพอใจของเครือข่ายในระดับสูง มีการร้องเรียนของลูกค้าลดลงต่อเนื่อง และเพิ่มการเติบโตของผู้ใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการใหม่เพิ่มขึ้น 305,000 ราย รวมทั้งสิ้น 19.9 ล้านเลขหมาย รายได้ค่าบริการไม่รวม IC ลดลง 2.5% และลดลง 1.4% จากไตรมาสก่อน มี EBITDA จำนวน 7,184 ล้านบาท ลดลง 3.9% แต่เพิ่มขึ้น  2.6% จากไตรมาสก่อน EBITDA margin (normalized) อยู่ที่  43.5% มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 2.6%

นายนกุล เซห์กัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน DTAC กล่าวว่า EBITDA เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จากการเพิ่มประสิทธิภาพในเชิงโครงสร้าง และการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย หากไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ EBITDA margin (normalized) จะแข็งแกร่งอยู่ที่ 44.2% กำไรสุทธิดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เนื่องจากไตรมาส 4/2564 ได้รับผลกระทบจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์เพียงครั้งเดียว หากไม่รวมผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ กำไรสุทธิยังคงทรงตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ค่าใช้จ่ายการลงทุน สำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ 4,075 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  6% จากไตรมาสก่อน และ 22% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเร่งรัดขยายสถานีฐานบนเครือข่ายคลื่นย่านความถี่ต่ำและการขยายความจุเครือข่าย

ดีแทคคาดการณ์แนวโน้มยังไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเศรษฐกิจมหภาคที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ และการแข่งขันที่รุนแรง  คาดว่ารายได้จากการให้บริการจะออกมาอยู่ในช่วงต่ำของแนวโน้ม ในขณะที่ EBITDA จะอยู่ในช่วงแนวโน้มที่ให้ไว้ หากไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ