STARK วิ่งเข้าหารายได้นิวไฮ 3 หมื่นลบ. เล็งขายหุ้นกู้ ดอกเบี้ย 2.90-4.20%

HoonSmart.com>>” สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น “ปักธงสู่ผู้ผลิตสายไฟฟ้า-สายเคเบิ้ลท็อป 10 ของโลก เดินหน้าขยายฐานสู่ธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ดันผลงานปีนี้แตะ 30,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง Backlog 12,000 – 13,000 ล้านบาท รุกควบรวมกิจการ  มุ่งโตอย่างยั่งยืน เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด อายุ 9 เดือน, 2 ปี และ 3 ปี  ดอกเบี้ยคงที่ 2.90 – 4.20 % เสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน/รายใหญ่ คาดเปิดจอง 9 – 11 พ.ค. นี้

นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ( STARK) เปิดเผยว่าบริษัทฯ เป็นผู้นำด้านการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประสบการณ์ในธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลยาวนานกว่า 50 ปี โดยมีบริษัทย่อยหลัก คือ บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) หรือ PDITL ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการรายใหญ่ในการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล อีกทั้งยังมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลธุรกิจพลังงานดิจิทัล และธุรกิจที่ประกอบกิจการให้บริการด้านทรัพยากรบุคคล เป็นต้น ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายส่งผลให้ STARK สามารถให้บริการได้อย่างหลากหลายและเติบโตอย่างรวดเร็วจนขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตสายไฟอันดับ 14 ของโลกในปัจจุบัน

บริษัทฯ เดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ในการดำเนินงาน มุ่งเน้นการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลแรงดันไฟฟ้าปานกลาง สูง และสูงพิเศษ เพื่อรักษาอัตรากำไรในระดับสูง ต่อเนื่องในระยะยาว จากโรงงานทั้งในไทยและเวียดนาม ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตโดยรวม สำหรับผลิตภัณฑ์แรงดันไฟฟ้าสูงและเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย การเสนอขาย และความเชี่ยวชาญในด้านสายแรงดันไฟฟ้าสูงและสูงพิเศษ และเพิ่มโอกาสในการประมูลงานสำหรับผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ขึ้น ปัจจุบันโรงงานเวียดนามได้ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลแรงดันไฟฟ้าสูงและสูงพิเศษแล้ว รวมทั้งห้องทดสอบแรงดันไฟฟ้าสูง ส่งผลให้ STARK สามารถขยายการผลิตได้ด้วยการใช้เงินทุนเพียงเล็กน้อย

นอกจากนี้ STARK ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สายเคเบิ้ลใต้น้ำ เชื่อมต่อโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน การผลิตสายไฟ HVDC Cable ระบบสายส่งกระแสตรงแรงดันสูง และการผลิตกระแสไฟฟ้าที่ติดตั้งในทะเล เพื่อรองรับการเติบโตของภาคธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม พลังงานหมุนเวียน รวมถึง อุตสาหกรรมอวกาศและยานอวกาศอีกด้วย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STARK กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง มาจากธุรกิจหลักคือ การผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล รวมถึงเติบโตจากแผนการขยายฐานรายได้เข้าสู่ธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตทั่วโลก ประกอบกับมีสายไฟเป็นปัจจัยที่สำคัญและจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงชุดสายไฟตามเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) 12,000 – 13,000 ล้านบาท โดยเป็นงานทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่อง

บริษัทฯ ได้พัฒนาแนวทางที่จะเติบโตยั่งยืนผ่านการควบรวม การซื้อกิจการ และการลงทุน โดยเน้นการส่งเสริมการเสนอขายผลิตภัณฑ์ การขยายและเพิ่มฐานตลาด ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดที่มีการเติบโตสูง ได้รับประโยชน์ในการพึ่งพาข้อตกลงระหว่างประเทศจาก FTA (Free Trade Area) ของบริษัทย่อย Thipha Cables ที่จะเอื้อต่อการส่งออก ซึ่งจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในระดับโลกและภูมิภาค โดยวางเป้าหมายขยายตลาดส่งออกเป็น 50 ประเทศ จากปีที่ผ่านมาส่งออก 42 ประเทศ เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตขององค์กรอย่างต่อเนื่อง มั่นคงในระยะยาวและสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่ผู้ถือหุ้นต่อไป ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการผลิตสายไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลอันดับ 14 ของโลก โดย STARK มีเป้าหมายมุ่งเป็นผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลอันดับที่ 10 ของโลกต่อไป

ล่าสุด บริษัทฯ ได้เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 จำนวน 3 ชุด  ชุดที่ 1 อายุ 9 เดือน คาดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.90 – 3.10% หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 2 ปี  คาดดอกเบี้ย  3.60 – 3.80 % ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 3 ปี คาดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00 – 4.20%ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยจะเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ เท่านั้น คาดว่าจะเปิดให้ผู้ลงทุนจองซื้อในวันที่ 9 – 11 พ.ค.นี้ ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 6 ราย วัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ชำระคืนสินเชื่อและหุ้นกู้ของผู้ออกหุ้นกู้หรือบริษัทในกลุ่ม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ

สำหรับบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง   ที่ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2564 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินงาน ในฐานะผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้