HoonSmart.com>> “อิ๊กดราซิล กรุ๊ป” รุกหนักธุรกิจเกม-แอนนิเมชั่น เตรียมเปิดตัว 2 เกมใหม่ และโปรเจคแกรนด์โดร่าบนแพลตฟอร์มบล็อกเชน ภายใต้ธีม Metaverse ส่วนเกม Home Sweet Home Survive เตรียมปล่อยเวอร์ชั่นอัพเดทใหญ่ภายในเดือนพ.ค.นี้ พร้อมเดินหน้าพัฒนาไปสู่การเล่นบนมือถือ ส่วนความร่วมมือพัฒนาเกม Play-to-earn กับ Zookeeper คืบหน้ากว่า 50% ทุกธุรกิจเดินสู่ต้นน้ำมากขึ้น ดันยอดขายและมาร์จินขยับสูงขึ้น
นายศรุต ทับลอย ประธานกรรมการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป (YGG) กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2565 ยังเติบโตต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งธุรกิจเกมและอินโนเวชั่น งานโฆษณาและภาพยนตร์ รวมทั้งภาพยนตร์แอนิเมชั่น โดยทุกธุรกิจของบริษัทจะเดินไปสู่ธุรกิจต้นน้ำมากขึ้น ซึ่งจะทำให้มีการเพิ่มทั้งยอดขายและมาร์จินของบริษัทให้ขยับสูงขึ้น
นายศรุต กล่าวต่อว่า ธุรกิจเกมในปี 2565 จะเป็นของจริง หลังจากที่บริษัทได้ชิมลางเปิดตัวเกม Home Sweet Home Survive ในปีผ่านมา และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาเกมดังกล่าวไปสู่การเล่นบนแพลตฟอร์มสมาร์ทโฟน ขณะที่ความร่วมมือกับ Zookeeper ในการพัฒนาเกม Zooracers รูปแบบ Play-to-earn มีความคืบหน้าไปกว่า 50%
นอกจากนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างพัฒนาเกมใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวภายในปีนี้อีกอย่างน้อย 2 เกม และเตรียมปล่อยบิ๊กเซอร์ไพรซ์ EPIC โปรเจคยักษ์ แกรนด์โดร่า (Grandora) ซึ่งจะเปิดตัวบนบล็อกเชน (Blockchain) ภายใต้ธีม Metaverse
“ธุรกิจเกมในปีนี้ถือว่ารุกหนักมาก เกมเก่าก็ได้พัฒนาไปเรื่อยๆ ในหลายแพลตฟอร์ม พร้อมทั้งเตรียมพัฒนาเกมใหม่ๆ ป้อนสู่ตลาด ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จมาก สะท้อนจากรายได้ปี 64 ที่ธุรกิจเกมโตก้าวกระโดดมาก เพิ่มขึ้นจากปี 63 จำนวน 50.39 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 299.4% ปีนี้ก็ยังเติบโตต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ทั้งภาพยนตร์โฆษณาและแอนิเมชั่น YGG ก็รุกไปสู่ต้นน้ำมากขึ้น ทำให้มาร์จินของเราในทุกธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น “นายศรุต กล่าว
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมเกมในตลาดโลกที่มีมูลค่าสูงถึง 6.6 ล้านล้านบาท ซึ่งปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจเกมในตลาดโลกมีมูลค่ามหาศาล มาจากช่องทางการเข้าถึงเกม มีความหลากหลายมากขึ้น มีแพลตฟอร์มใหม่ ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจเกม เช่น บล็อกเชน NFT เหรียญคริปโทฯ รวมทั้งรูปแบบของเกมในปัจจุบันได้มีการพัฒนาไปสู่การสร้างรายได้ (Play-to-earn) จึงดึงดูดผู้เล่นในทุกช่วงอายุ ทำให้ตลาดเกมกว้างและลึกมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจของ YGG ที่เติบโตไปตามเทรนด์ของตลาดโลก
ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 284. ล้านบาท เพิ่มขึ้น 625.6% เมื่อเทียบกับปี 2563 ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 112.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.5 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 98.1% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีกำไรสุทฺธิ 56.5 ล้านบาท โดยธุรกิจเกมและอินโนเวชั่น มีการเติบโตโดดเด่นสุด รายได้เพิ่มขึ้น 299.4% ขณะที่รายได้จากส่วนงานภาพยนตร์แอนิเมชั่นเติบโต 7.9%
สำหรับในส่วนของโปรเจคแกรนด์โดร่า (Grandora) สามารถติดตามรายละเอียดอย่างใกล้ชิด ได้ที่ WWW.Grandora.games