WFX  ปิดจอง IPO คาดเทรด SET ภายในธ.ค.นี้ มั่นใจขึ้นแท่นผู้นำตลาดโลกใน 1-3 ปี

HoonSmart.com>>เวิลด์เฟล็กซ์  หุ้นไอพีโอน้องใหม่ขายหมดเกลี้ยง! มั่นใจอนาคตสดใส อนาคตจ่อขึ้นแท่นผู้ผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดรายใหญ่ของโลกภายใน 1-3 ปี ชูจุดเด่นโปรดักส์หลากหลาย คาดเตรียมเข้าเทรด SET ใน ธ.ค.นี้

นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ฝ่ายวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ของบริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) เปิดเผยว่า  ประชาชนทั่วไป และนักลงทุนสถาบันให้ความสนใจจองซื้อหุ้น WFX อย่างคึกคัก  โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ในเดือนธ.ค.นี้  ในหมวดแฟชั่น

“หุ้น WFX ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยมทั้งจากนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานในฐานะผู้นำธุรกิจและผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 ที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 218% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งยังมีโอกาสการเติบโตจากแผนเพิ่มกำลังการผลิต รองรับแผนขยายตลาดใหม่ ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง อีกทั้งผลิตภัณฑ์ยังมีความหลากหลาย และเป็นสินค้าปัจจัยสี่ ทำให้ดีมานด์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำผู้ผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดรายใหญ่ของโลกในอนาคตอันใกล้ ตามแผนงานที่วางไว้ อีกทั้งการกำหนดราคาหุ้นถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม” นายรัฐชัย กล่าว

สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้จำนวนไม่เกิน 142 ล้านหุ้น แบ่งเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป  (TRUBB) ตามสัดส่วนการถือหุ้น ไม่เกิน 11,360,000 หุ้น คิดเป็น 8.00%
2.กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯไม่เกิน 14.2 ล้านหุ้น คิดเป็น 10%
3.ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ ไม่เกิน 18,460,000 หุ้น คิดเป็น 13%
4.บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ไม่น้อยกว่า 97,980,000 หุ้น คิดเป็น 69%

นายชวลิต ติยาเดชาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) กล่าวว่า  ต้องขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำผู้ผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดรายใหญ่ของโลก และจากแผนเพิ่มกำลังการผลิตอีก 12,400 ตัน/ปี ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า แบ่งเป็น 2 เฟส ซึ่งเฟสแรกมีกำหนดจะผลิตได้ในช่วงกลางปี 2565 จำนวน 6,200 ตัน/ปี และในเดือนมกราคม 2566 จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 6,200 ตัน รองรับออเดอร์ลูกค้าในต่างประเทศ เพิ่มโอกาสในการก้าวขึ้นสู่ความเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดโลก ภายใน 1-3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 35,000 ตัน/ปี

“ในช่วงที่ผ่านมายอดขายของ WFX เติบโตเฉลี่ย 15-20% ต่อปี และในอนาคตมีความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตในระดับสูงเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทมีแผนเพิ่มกำลังผลิตอีกราว 35% ในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า ช่วยให้อัตรากำไรของบริษัทฯดีขึ้นจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และ economies of scale รวมถึงความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด”

นายณัฐ วงศาสุทธิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) ระบุว่าวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้หลังหักค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงินสุทธิประมาณ 998.12 ล้านบาท นำไปใช้เป็นเงินทุนในการขยายโรงงานผลิตเส้นด้ายยางยืด 350 ล้านบาท ภายในปี 2565 ชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงิน 400 ล้านบาท ภายในปี 2564 และเป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ 248.12 ล้านบาท ภายในปี 2565

บริษัทมีแผนงานและกลยุทธ์เชิงรุก (Growth Strategy) ในการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในเอเชียใต้ บังคลาเทศ ปากีสถาน เยอรมนี อิตาลี รัสเซีย บราซิล อาเจนตินา และชิลี รวมถึงชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่ง จากความได้เปรียบในด้านต้นทุนยางพาราธรรมชาติที่ถูกกว่าคู่แข่ง เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลก ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 ที่ อัตรากำไรสุทธิของบริษัทเติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว 218% จากแผนงานและกลยุทธ์ที่วางไว้ ประกอบกับการขยายกำลังการผลิตในช่วงต้นปี