WFX เคาะราคาขาย IPO 7.20 บาท P/E 17 เท่า เปิดให้นักลงทุนจองซื้อ 15-17 ธ.ค.

HoonSmart.com>> “เวิลด์เฟล็กซ์” เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 142 ล้านหุ้น  ในราคาหุ้นละ 7.20 บาท เปิดให้ผู้ถือหุ้นเดิมของ TRUBB จองซื้อวันที่ 9,13-14 ธ.ค.  ประชาชนทั่วไปวันที่ 15-17 ธ.ค. คาดเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อน 25 ธ.ค.64 นี้ นำเงินระดมทุนเพิ่มกำลังการผลิต-คืนหนี้สถาบัน ลด D/E เหลือ 0.3 เท่า มั่นใจธุรกิจสดใส ความต้องการสูง-ขายสินค้ามาร์จิ้นดี-คุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ฝ่ายวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที  ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ของบริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) เปิดเผยว่า WFX ได้กำหนดราคาขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 142 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาทต่อหุ้น ในราคาหุ้นละ 7.20 บาท โดยกำหนดจากผล Bookbuilding จากนักลงทุนสถาบันจำนวน 3 แห่ง ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ

ทั้งนี้จะเปิดให้จองซื้อหุ้นสำหรับผู้ถือหุ้นของบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป (TRUBB) ตามสัดส่วนการถือหุ้นใน TRUBB วันที่ 9, 13 และ14 ธ.ค. 2564 และเปิดจองซื้อหุ้นสำหรับประชาชนทั่วไปในวันที่ 15-17 ธ.ค. 2564 โดยคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ก่อนวันที่ 25 ธ.ค.นี้ ในหมวดแฟชั่น

พร้อมกันได้แต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 6 บริษัทหลักทรัพย์ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ , บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต , บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) , บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก , บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส และบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป

สำหรับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นของ TRUBB  จำนวนไม่เกิน 11.36 ล้านหุ้น 2.เสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 14.2 ล้านหุ้น และ 3.เสนอขายต่อประชาชน  จำนวน 116.44 ล้านหุ้น

“ราคาขายที่ 7.20 บาทถือว่าเหมาะสม คิดเป็น P/E ที่ 17 เท่า เทียบกับบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่นในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ เฉลี่ย P/E ที่ 50 เท่า ซึ่ง WFX มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ในฐานะผู้นำตลาดเส้นด้ายยางยืดชั้นนำระดับโลก และในอนาคตมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เห็นจากผลประกอบการ 9 เดือนที่ผ่านมา มีการเติบโตทุกปี อีกทั้งแผนการระดมทุนจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งทั้งในด้านธุรกิจและฐานะการเงิน รวมถึงช่วยสร้างโอกาสในการก้าวขึ้นสู่ผู้นำตลาดโลกได้ในอนาคต ” นายรัฐชัย กล่าว

ด้านนายชวลิต ติยาเดชาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะใช้เงินระดมทุนเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 12,400 ตัน โดยเฟสแรกมีกำหนดจะผลิตได้ในช่วงกลางปี 2565 กำลังการผลิต 6,200 ตันปี และในเดือน ม.ค. 2566 จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 6,200 ตัน เพื่อรองรับออเดอร์ลูกค้าในต่างประเทศ ที่มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก เงินอีกส่วนหนึ่งจะใช้คืนหนี้จากสถาบันการเงิน โดยคาดว่าภายหลังการระดมทุนอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนจะอยู่ที่ระดับ 0.3 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.12 เท่า

“การเข้าระดมทุนและจดทะเบียนใน SET จะช่วยสร้างการเติบโตอีกมากในอนาคต จากการขยายตลาดใหม่ ภายใต้จุดแข็งที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด ไม่ว่าจะเป็นความได้เปรียบของโปรดักส์ที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกขนาด ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังมีความได้เปรียบด้านการเข้าถึงวัตถุดิบ เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลิตน้ำยางข้นอันดับ 1 ของโลก ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเส้นด้ายยางยืด รวมทั้งการที่มี TRUBB ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำยางข้นในไทย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ช่วยให้บริษัทเข้าถึงวัตถุดิบที่มีคุณภาพในปริมาณที่ต้องการ” นายชวลิต กล่าว

ส่วนความเสี่ยงทางธุรกิจ ในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน โดยปกติแล้วบริษัทได้ทำการป้องกันความเสี่ยง 100% เนื่องจากยอดขายส่วนใหญ่กว่า 98% เป็นการขายในต่างประเทศ ส่วนเรื่องราคาต้นทุนยางข้นที่ผันผวน บริษัทสามารถปรับราคาต้นทุนกับราคาขายตามความเหมาะสม เพื่อสร้างรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้ดีขึ้น รวมถึงพยายามเพิ่มยอดขายของผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรดีด้วย และคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง

สำหรับผลประกอบการในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 มีการเติบโตที่โดดเด่นมาก โดยมีรายได้รวม 2,590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 874 ล้านบาท หรือ 51% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,715 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129 ล้านบาท หรือ 218% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 59 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 15.96% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7.27%

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลการดำเนินงานของ WFX เติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯได้มีการใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ทั้งในเอเชียใต้ บังคลาเทศ ปากีสถาน เยอรมนี อิตาลี รัสเซีย บราซิล อาเจนตินา และชิลี รวมถึงชิงส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) จากคู่แข่ง จากความได้เปรียบในด้านต้นทุนยางพาราธรรมชาติที่ถูกกว่าคู่แข่ง เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลก