ไทยอุตสาหกรรมพลาสติกฯ หนึ่งในผู้นำธุรกิจถุงหูหิ้วพลาสติก แบรนด์”หมากรุก” เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 70 ล้านหุ้น เสนอจุดแข็ง บริษัทมั่นคงอายุ 23 ปีมีกำไรตลอด ขายสินค้ามีคุณภาพในราคาสูงกว่าคู่แข่ง ฐานลูกค้าแน่น หนี้สินต่ำ
นายธีรชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) หรือ TPLAS ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงหูหิ้วพลาสติก ถุงบรรจุอาหารใหญ่อันดับที่ 5 ของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่าจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 70 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท ได้ประมาณต้นเดือนก.ย.นี้ เพื่อนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตบาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ภายในปีนี้
กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า จุดเด่นของบริษัทมีหลายด้าน นับตั้งแต่เปิดดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน มีกำไรทุกปี รายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ธุรกิจมั่นคงตลอด 23 ปี เนื่องจากถุงหิ้วพลาสติกที่บริษัทผลิตมีคุณภาพ สามารถตั้งราคาขายได้สูงกว่าคู่แข่ง เพราะใช้เม็ดพลาสติกล้วนๆ ไม่ผสมพลาสติกที่ใช้แล้ว ทำให้สินค้าเป็นที่รู้ใจลููกค้าเลือกซื้อเพราะสะอาดและเหนียวกว่า รวมถึงฐานลูกค้าที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 1 หมื่นราย เป็นลูกค้าที่ซื้อของสม่ำเสมอ(active)ประมาณ 5 พันราย มีทั้งยี่ปั่วและซาปั่ว หนี้สูญต่ำ บริษัทสามารถปรับเพิ่มราคาสินค้าตามราคาวัตถุดิบ ทำให้ไม่มีความเสี่ยงเรื่องขาดทุนจากส่วนต่างราคา และที่สำคัญ บริษัทมีหนี้น้อยมาก แถมดอกเบี้ยต่ำ ธนาคารไทยพาณิชย์คิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ ลบ 1 % ปัจจุบันมีหนี้ตั๋วพี/เอ็น 10 ล้านบาทเศษ ดูแลอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ดี/อี)อยู่ในระดับต่ำ 0.4-0.5 เท่า
อย่างไรก็ตามในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ตลาดแทบไม่โต มูลค่าตลาดของถุงพลาสติกอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจฐานรากไม่โต และราคายางตกต่ำ ทำให้ความต้องการใช้ถุงพลาสติกในการรองน้ำยางลดลง แต่บริษัทฯก็ยังสามารถเติบโตมากกว่าตลาด โดยมีสินค้าคงคลังอยู่ที่ประมาณ 200 ตัน จากปกติมีเพียง 100 ตัน ขณะที่บริษัทอื่นมีจำนวน 1,000-2,000 ตัน
ส่วนเป้าหมายในการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ นายธีรชัย กล่าวว่า ต้องการให้องค์กรอยู่รอดตลอดไป ไม่ว่าเจ้าของจะไม่อยู่ก็ตาม การเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีกฎเกณฑ์ เข้ามาตรวจสอบ ดูแล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ทุกสถานการณ์ ขณะเดียวกันบริษัทต้องปรับตัวจากที่เคยอยู่นอกตลาด ต้องปรับมุมมองในการทำธุรกิจ มีการลงทุนเรื่องระบบการทำงาน และเพิ่มพนักงานให้สอดคล้องกับงานที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นการเข้าตลาด ยังมีผลดีในเรื่องการมีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายและต้นทุนต่ำลง รวมถึงโอกาสของธุรกิจที่กว้างขึ้น ส่วนเงินที่ระดมทุนจากการขายไอพีโอ นำไปใช้ขยายอาคารใหม่ ติดตั้งเครื่องจักรใหม่บนที่ดินในบริเวณเดียวกับโรงงานในปัจจุบัน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
ด้านผลการดำเนินงานปี 2558-ไตรมาส 1/2561 มีกำไรสุทธิ 25.2 ล้านบาท 12.89 ล้านบาท 22.09 ล้านบาทและ 6.89 ล้านบาทตามลำดับ
TPLAS เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงบรรจุอาหาร ถุงหูหิ้วพลาสติก ภายใต้เครื่องหมายการค้า”หมากรุก”และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ภายใต้เครื่องหมายการค้า”Vow Wrap” มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 100 ล้านบาท หรือจำนวน 200 ล้านหุ้น โดยมี ครอบครัวธีระรุจินนท์ ถือหุ้นใหญ่ ภายหลังเสนอขายหุ้นไอพีโอ สัดส่วนจะลดลงเหลือ 74.19%