SECURE ยกชั้นสู่ Cybersecurity ระดับภูมิภาค

HoonSmart.com>>SECURE ยกชั้นสู่ Cybersecurity ระดับภูมิภาค

นักรบ เนียมนามธรรม

ในโลกปัจจุบันกําลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลการเติบโตของการใช้งาน Data จากตลาด 5G และความจําเป็นในการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อยกระดับองค์กรในยุคดิจิทัล ทําให้มีความจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีคุณภาพ และสิ่งสำคัญจะต้องมีความปลอดภัยข้อมูลให้มากที่สุด จึงสะท้อนถึงความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์สําหรับรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันในประเทศไทย Personal Data Protection Act หรือ PDPA คือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เป็นกฎหมายที่ออกมาคุ้มครองสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การควบคุมไม่ให้องค์กรนําข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม เป็นต้น ทําให้องค์กรธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต้องเตรียมตัวลงทุนเพื่อรองรับกฎหมายฉบับนี้ โดยพรบ.ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย. 2565 ดังนั้นเป็นโอกาสการเติบโตได้อีกมากสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจ Cybersecurity

บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว (SECURE)  ประกอบธุรกิจตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์โซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีไซเบอร์ (Cybersecurity) และให้บริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทฯที่จะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มของอุตสาหกรรม Cybersecurity โดยปัจจุบัน บริษัทฯมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 20% หรือ เป็น 1 ใน 5 บริษัทแรกของตลาด Cyber securityในประเทศไทย และเป็นบริษัทของคนไทยรายเดียว

SECURE ได้ทำการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 27.74 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 16 บาท โดยเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 23-25 มิถุนายน 2564 และจะเข้าซื้อขายในหมวดเทคโนโลยีของตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้

สำหรับเป้าหมายการระดมทุนในครั้งนี้  “นักรบ เนียมนามธรรม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SECURE กล่าวว่าบริษัทฯจะนำเงินไปลงทุนเพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยการสร้างศูนย์ให้บริการด้านเทคนิค (Technical Support Center) จะช่วยยกระดับความสามารถทางเทคนิค และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการกับลูกค้า

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคงปลอดภัย โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนและวิจัยพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ภายใต้แบรนด์ของตนเอง (white label) หรือการซื้อทรัพย์สินทางปัญญาจากบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์

รวมไปถึงการขยายการลงทุนไปในประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งมีเป้าหมายที่จะก้าวสู่การเป็นตัวแทนจำหน่ายเทคโนโลยีความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ชั้นนำในระดับภูมิภาคให้ได้

จุดเด่นของหุ้น SECURE ประกอบด้วย การมีโครงสร้างรายได้ที่ชัดเจน เกาะไปกับการเติบโตของ Cybersecurity ที่เป็น Megatrend ของอุตสาหกรรม ICT ในยุค 5G และ IoTs โดยมีผลงานที่ดีสามารถรักษาการเติบโตของยอดขายได้สม่ำเสมอ และมีคู่ค้าระดับโลกในมือจำนวนมาก

แม้จะเป็นบริษัทฯขนาดเล็ก แต่งบดุลแข็งแกร่ง เมื่อประกอบกับเงินสดจากการ IPO จะทําให้มีฐานสร้างการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ขณะที่งานระบบ Security ส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาระยะยาว และมีการต่อสัญญาอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัยทำให้มีโอกาสเปลี่ยนแปลงงานตํ่า ดังนั้น งานส่วนใหญ่จึงมีลักษณะเป็น Recurring  โดยมีอายุงานยาวอย่างน้อย 2-3 ปี

ขณะที่มีความสามารถในการทำอัตราการกำไรได้สมํ่าเสมอ และอยู่ในระดับแถวหน้าของกลุ่ม ICT  และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีทีมงานผู้บริหารที่เกิดจากกลุ่ม Startup DNA ซึ่งมีประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 20 ปี

“นักรบ” เชื่อว่าภายหลังจากเข้าระดมทุนในตลาด mai แล้ว บริษัทฯมั่นใจว่ามีความพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างเต็มกำลัง และจะผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะการที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในตลาดระบบรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย ผสานกับความเข้าใจความต้องการของตลาด รวมถึงการมีโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่าในอนาคตจะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยในปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 15%จากปีก่อน

ส่วนภาพรวมของผลการดำเนินงานของ SECURE ในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะทางเศรษฐกิจไทยรวมถึงทั่วโลกจะถดถอยอย่างรุนแรง จากผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 แต่ภาพรวมของผลการดำเนินงาน ยังสามารถรักษาการเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี โดยในงวดไตรมาส 1 ปี 2564 (สิ้นสุด 31 มี.ค.2564) บริษัทมีกำไรสุทธิ 27.78 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4.72 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 488.29% ขณะที่บริษัทฯมีรายได้รวมเท่ากับ 282.52 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน 192.92 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 46.44%

นอกจากนี้โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ประเมินว่า SECURE จะเป็นหุ้นที่มีความสามารถในการทำกำไรอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะในปี 2564 หลังจากระดมทุนแล้วจะเติบโตได้สูงมากกว่า 134-227% ขณะที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนหลังระดมทุนเพียง 0.3 เท่า และยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50%

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า(ประเทศไทย) ได้คาดกําไรปกติ ปี 2564/65 ที่ 71 ล้านบาท และ 84 ล้านบาท ตามลําดับ เพิ่มขึ้น 134% จากงวดเดียวกันปีก่อน  และ78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากงวดเดียวกันปีก่อนตามลําดับ หนุนจากการเติบโตของความต้องการสินค้ากลุ่ม Network Security ที่เข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นในยุค 5G ประมาณการมี Upside Risk จากการเติบโตของบริษัทร่วมทุนที่เพิ่งจัดตั้งเพื่อเน้นงานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการเข้าซื้อกิจการอื่นๆเพิ่มเติมในอนาคต

ประเมินมูลค่าเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 24.20 บาทต่อหุ้น อิง PER 30.4 เท่า หรือเท่ากับค่าเฉลี่ยหุ้นในกลุ่ม ICT ขนาดเล็กที่ให้บริการ Software ในประเทศไทยและหุ้น Distributor ที่เป็นคู่แข่ง

สอดคล้องกับ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย)  ระบุ แนวโน้มกําไรสุทธิปี 2564-2566 แข็งแกร่ง คาดว่ากําไรสุทธิปี 2564 เติบโตก้าวกระโดด 227% จากฐานต่ำ และเป็นสถิติสูงสุดใหม่ ขับเคลื่อนโดยรายได้ที่คาดว่าขยายตัว 27% ตามโมเมนตั้มการลงทุนด้าน Cybersecurity จากทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนที่ฟื้นตัว รวมถึงค่าใช้จ่ายดําเนินงานที่คาดว่าจะลดลง

กําไรไตรมาส 1/2564 ที่โดดเด่นหนุนความมั่นคงของผลประกอบการปีนี้ คาดกําไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง 25% ในปี 2565 และ 16% ในปี 2566 บนประมาณการรายได้รวมเติบโต 10%-15% จากแนวโน้มอุปสงค์ที่ยังเป็นขาขึ้น การบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหนุนการขายผลิตภัณฑ์ที่ SECURE พัฒนาขึ้นเอง

อ่านข่าว

SECURE กำไร Q1/64 โตแรง 488% จ่อเทรด 1 ก.ค.นี้