MJLF เผยกลุ่ม MAJOR ขอเว้น-ลด-ปรับเงื่อนไขค่าเช่าพื้นที่อ่วมพิษโควิด

HoonSmart.com>> กองทุนอสังหาฯ MJLF เผย “MAJOR-เมเจอร์โบว์ล” ถูกพิษโควิด-19 ซ้ำซ้อนตั้งแต่ปี 63 จนระบาดระลอกใหม่ ธุรกิจยังฟื้น ขอยกเว้นค่าเช่า 18 มี.ค.63-31 พ.ค.63 “เมเจอร์ โบว์ล” สาขารัชโยธิน-รังสิต ของดเว้นค่าเช่าและค่าบริการ 2 ม.ค.64-22 ม.ค.64 พร้อมขอยกเลิกอัตราค่าช่าและค่าบริการขั้นต่ำ ขอจ่ายอัตรา 15% ของรายได้บริการโรงหนังและโบว์ลิ่งตั้งแต่ 1 ม.ค.64-31 ธ.ค.64

กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์ สไตล์ (MJLF) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หน่วยงานภาครัฐจึงได้มีคำสั่งปิดสถานที่ให้บริการโรงภาพยนตร์ โบว์ลิ่ง และคาราโอเกะชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.2563-31 พ.ค.2563 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ซึ่งเป็นผู้เช่าพื้นที่โรงภาพยนตร์ และบริษัท เมเจอร์ โบว์ล กรุ้ป ซึ่งเป็นผู้เช่าพื้นที่โบว์ลิ่ง และคาราโอเกะ (รวมเรียกว่า “ผู้เช่าหลัก”) ของกองทุนต้องปิดสถานที่ให้บริการชั่วคราว ทำให้ผู้เช่าหลักไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการในช่วงเวลาดังกล่าว

แม้ต่อมาภายหลังหน่วยงานภาครัฐอนุญาตให้เปิดกิจการได้แต่จำนวนผู้เข้าใช้บริการจะยังไม่สามารถเพิ่มขึ้นกลับมาในระดับเดียวกันกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้อย่างรวดเร็ว ผู้เช่าหลักจึงส่งหนังสือขอให้กองทุนพิจารณางดเว้นและลดค่าเช่า และค่าบริการ ในช่วงที่ผู้เช่าหลักได้รับผลกระทบจาก COVID-19รายละเอียดตามที่กองทุนได้แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง ผู้เช่าหลักของกองทุนแจ้งของดเว้น/ลด ค่าเช่า และค่าบริการ วันที่ 20 พ.ย.2563

นอกจากนี้เกิดการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่อีกครั้งในช่วงปลายปี 2563 ซึ่งต่อเนื่องมาถึงต้นปี 2564 และภาครัฐได้มีคำสั่งปิดสถานที่ให้บริการโบว์ลิ่งชั่วคราวอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2564-21 ม.ค.2564 ส่งผลให้เมเจอร์โบว์ล ต้องปิดสถานที่ให้บริการชั่วคราวตามคำสั่งภาครัฐดังกล่าวด้วย

ผู้เช่าหลักและกองทุนจึงได้ดำเนินการเจรจาร่วมกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดส่วนลด เงื่อนไข และช่วงเวลา ในการงดเว้นและลดค่าเช่าและค่าบริการตามข้อเสนอของผู้เช่าหลักเดิม จนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการของดเว้นและลดค่าเช่าและบริการ ผู้เช่าหลักจึงส่งหนังสือแก้ไขข้อเสนอที่จะให้ผู้ถือหน่วยลงทุนพิจารณาผ่านมายังกองทุน ดังนี้

1. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์และเมเจอร์ โบว์ล ของดเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าและค่าบริการตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.2563-31 พ.ค.2563

2. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์และเมเจอร์ โบว์ล ขอยกเลิกอัตราค่าเช่าและค่าบริการขั้นต่ำและขอชำระค่าเช่าและค่าบริการในอัตรา 15% ของรายได้จากการให้บริการโรงภาพยนต์ และโบว์ลิ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2563-31 ธ.ค.2563

3. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์และเมเจอร์ โบว์ล ขอยกเลิกอัตราค่าเช่าและค่าบริการขั้นต่ำและขอชำระค่าเช่าและค่าบริการในอัตรา 15% ของรายได้จากการให้บริการโรงภาพยนต์ และโบว์ลิ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564-31 ธ.ค.2564 โดยชำระค่าเช่าและค่าบริการตามเงื่อนไขตามสัญญาเช่าและ สัญญาให้บริการที่เกี่ยวข้องเฉพาะเดือนที่มีรายได้จากการให้บริการโรงภาพยนต์ หรือโบว์ลิ่งเท่ากับหรือสูงกว่ารายได้จากการให้บริการโรงภาพยนต์ หรือโบว์ลิ่งเฉลี่ยในปี 2562 เท่านั้น สำหรับเดือนที่มีรายได้จากการให้บริการโรงภาพยนต์ หรือโบว์ลิ่งต่ำกว่ารายได้เฉลี่ยในปี 2562 จะขอชำระค่าเช่าและค่าบริการ ในอัตรา 15% ของรายได้จากการให้บริการโรงภาพยนต์ และโบว์ลิ่ง โดยพิจารณาแต่ละกิจการเป็นรายสาขาได้แก่ รายได้จากการให้บริการโรงภาพยนตร์สาขารัชโยธินและรังสิต และรายได้จากการให้บริการโบว์ลิ่ง สาขารัชโยธิน และรังสิต

4. เมเจอร์ โบว์ล สาขารัชโยธิน ของดเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าและค่าบริการตามสัญญาเช่าและสัญญาให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2564-21 ม.ค.2564 และสาขารังสิต ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2564-22 ม.ค.2564

ในการนี้กองทุนอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดการของดเว้นและลด ค่าเช่า และค่าบริการตามข้อเสนอของผู้เช่าหลักข้างต้น และจะดำเนินการภายใต้กรอบของสัญญารวมถึงกฎเกณฑ์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดรอบคอบ โดยคำนึงถึงการรักษาสิทธิของกองทุนและรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ กองทุนยังคงดำเนินการตามสิทธิของตนในการเรียกร้องให้ผู้เช่าหลักชำระค่าเช่าตามสัญญาเช่าและสัญญาบริการ รวมถึงเรียกร้องสิทธิให้บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ชำระค่าเช่าและหรือค่าเสียหายแทน หากบริษัท เมเจอร์ โบว์ล กรุ้ป จำกัด ไม่ชำระค่าเช่าและค่าบริการตามหน้าที่