HoonSmart.com>>”วาว แฟคเตอร์” สัญญาณสดใส EBITDA พลิกกลับมาเป็นบวก ยอดขายโตเท่าตัว จับตาผลงานปี 64 โตทะยาน ภายใต้ “ฟู้ดโฮลดิ้ง” ลุยขยายสาขา “โดมิโน่ พิซซ่า” เพิ่มอีก 60 แห่ง ร้านบุฟเฟต์ชาบู Kagonoya เปิดเพิ่ม 5 แห่ง และขยายสาขา Le Boeuf แห่งที่ 2
ถือว่าเดินมาถูกทางสำหรับบริษัท วาว แฟคเตอร์ (W) หลังขายทิ้งธุรกิจเก่า (อิเล็กทรอนิกส์) ออกไป พร้อมกับการพลิกโฉมเข้าสู่ธุรกิจอาหาร ภายใต้ “ฟู้ดโฮลดิ้ง” ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยมี “โดมิโน่ พิซซ่า” เป็นสินค้าเรือธง
ภายใต้ “ฟู้ดโฮลดิ้ง” ของ W มีบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจร้านอาหารและร้านขนม 6 แบรนด์ดัง คือ 1. Bake Cheese Tart ชีสทาร์ตสุดฮิตจากเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น 2. Zaku Zaku ชูครีม Croquant ต้นกำเนิดจากฮอกไกโด 3. RAPL พายแอปเปิลครีมคัสตาร์ดนำเข้าจากฮอกไกโด
4. Crépes & Co. ร้านเครปสไตล์ฝรั่งเศสแห่งแรกของกรุงเทพมหานคร 5. Kagonoya ร้านบุฟเฟต์ชาบูระดับพรีเมียมชื่อดังจากเมืองโอซากาที่เปิดให้บริการในไทยมากว่า 8 ปี
และ 6. Le Boeuf ร้านอาหารแนว Fine Dining ภายใต้คอนเซ็ปต์ Steak & Fries Bistro Le Boeuf เป็นร้านที่เสิร์ฟเมนูหลักเพียงเมนูเดียวคือสเต๊ก ซึ่งมีความพิเศษอยู่ที่ซอสสูตรลับที่สืบทอดมารุ่นต่อรุ่น
มีรายงานว่า หลังจาก W เข้าไปปรับโครงสร้างธุรกิจและเข้าไปดูแลเรื่องของต้นทุนในการบริหารจัดการร้านค้า ภายใต้ “ครัวกลาง” และดึงผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาเสริมทัพ ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านการเงิน ด้านการตลาด ทำให้ EBITDA (กำไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย) เริ่มพลิกกลับมาเป็นบวก
โดยในส่วนของ “โดมิโน่ พิซซ่า” ซึ่งถือเป็นขุมพลังและรายได้หลักของ W หลังจากที่รับโอนกิจการผ่านการซื้อแฟรนไชส์โดมิโนพิซซ่าในไทยเข้ามา ปัจจุบันมีสาขา 27 แห่ง และเตรียมเปิดเพิ่มอีก 60 แห่งภายในปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภค ยุค New Normal ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ขณะที่ในส่วนของ ร้านบุฟเฟต์ชาบู Kagonoya ปีนี้ เตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 แห่ง นอกเหนือจากการขยายสาขา เพื่อเพิ่มยอดขายแล้ว ยังมีการทำตลาดรูปแบบใหม่ ส่งสินค้า “เดลิเวอลี่” 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นที่แรกของวงการ
นอกจากนี้ ยังเตรียมสาขา Le Boeuf ร้านอาหารแนว Fine Dining ภายใต้คอนเซ็ปต์ Steak & Fries Bistro Le Boeuf เพิ่มอีก 1 แห่งในปีนี้
“มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของ W ในปีนี้จะพลิกมีกำไร ตามแผน เพราะในช่วงที่ผ่านมา เห็นสัญญาณชัดเจนจากยอดขาย ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และ EBITDA เริ่มพลิกกลับมาเป็นบวก”
ที่ผ่านมา ราคาหุ้น W ปรับตัวขึ้นสะท้อนถึงความคาดหวังทิศทางธุรกิจที่คาดว่าปี 64 จะเข้าโหมดของการ “เทิร์นอะราวด์” โดยราคาหุ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 0.31 บาท/หุ้น สูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์
และใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้น W-W5 เตรียมเข้าเทรดในวันนี้ (25 ม.ค.) ซึ่งถือเป็น “โบนัส” ที่ W แจกให้กับนักลงทุนที่เดินมาร่วมกัน ในสัดส่วน 2.5 : 1 ราคาแปลงสิทธิ 0.14 บาท หลังผู้ถือหุ้นใส่เงินเพิ่มทุน RO ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 0.30 หุ้นใหม่ ราคา 0.12 บาท/หุ้น ให้กับ W เพื่อรองรับแผนขยายกิจ เข้าซื้อกิจการ “โดมิโน พิซซ่า” สำเร็จ
ขณะที่ราคาปิดหุ้น W ในวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 0.29 บาท/หุ้น
น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เป็น VI หรือลงทุนระยะยาวกับ W จะพบว่าอัตราผลตอบแทนลงทุนอยู่ในระดับสูงถึง 141% หากเปรียบเทียบราคาหุ้นเพิ่มทุนขาย RO อยู่ที่ 0.12 บาท/หุ้น เทียบราคาปิดวันที่ 22 ม.ค.64
และยังได้โบนัส ที่เป็นแต้มต่อจาก W-W5 ที่แจกฟรีในอัตรา 2.5 หุ้นเดิมต่อ 1 วอแรนต์ ราคาแปลงสิทธิ 0.14 บาท
…ตามหลักแล้ว วอแรนต์เข้าเทรดวันแรก จะส่งผลกระทบต่อ Dilution effect ราคาหุ้นแม่อยู่แล้ว และนักลงทุนส่วนใหญ่จะเทขายวอแรนต์ออกมา เพื่อทำกำไรในวันแรก
ท้ายที่สุดแล้ว ราคาหุ้นแม่ และวอแรนต์ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต ผลประกอบการเท่านั้นจะเป็นตัวพิสูจน์!!!!