CPN กำไร 2,480 ลบ. Q3 ลด 12% “เมย์แบงก์ฯ” ชี้ดีกว่าคาดมองปีหน้าฟื้นตัวแรง

HoonSmart.com>> “เซ็นทรัลพัฒนา” ไตรมาส 3/63 กำไรสุทธิ 2,480 ล้านบาท ลดลง 11.9% จากงวดปีก่อน รายได้การเช่าและบริการลดลง เหตุบริษัทยังให้ส่วนลดช่วยเหลือผู้เช่า ด้านต้นทุนรวมลด เผยสถานการณ์โดยรวมดีขึ้นหลังเปิดบริการได้ตามปกติ ด้านบล.เมย์แบงก์ฯ ชี้กำไรฟื้นตัวดีกว่าคาด มองปี 64 กำไรฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ แนะ “ซื้อ” เป้า 66 บาท

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2563 กำไรสุทธิ 2,480.54 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.55 บาท ลดลง 11.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,816.28 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.63 บาท

งวด 9 เดือน ปี 2563 กำไรสุทธิ 7,539.65 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.68 บาท ลดลง 6.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 8,067.58 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.80 บาท

หากไม่รวมรายการที่มิได้เกิดขึ้นประจำและผลกระทบจากมาตรฐานรายงานทางการเงิน บริษัทฯ มีรายได้รวม 7,440 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ1,973 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือน ปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 19,623 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 3,864 ล้านบาท โดยหลักมีการฟื้นตัวของรายได้ค่าเช่าและบริการจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 อย่างมีนัยสำคัญและบริษัทฯ ได้ลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผลการดำเนินงานให้ได้มากที่สุด

ในไตรมาส 3/2563 รายได้รวมลดลงโดยหลักมาจากรายได้จากการให้เช่าและบริการลดลง เนื่องจากยังมีการให้ส่วนลดช่วยเหลือผู้เช่าที่ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างไรก็ตามไตรมาสนี้รายได้รวมปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากล็อคดาวน์ ขณะที่ต้นทุนรวม 3,942 ล้านบาท ลดลง 13.5% จากงวดปีก่อน

ปัจจุบันบริษัทฯ มี 4 ธุรกิจภายใต้การบริหารงาน ได้แก่ 1) ธุรกิจศูนย์การค้าและสำนักงานให้เช่า 2) ธุรกิจบริการศูนย์อาหาร 3) ธุรกิจโรงแรม และ 4) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่พักอาศัย ซึ่งรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ได้โอนไปยังทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPคอมเมอรเ์ชยีล โกรท (CPNCG)

บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า CPN กำไรไตรมาส 3/63 ฟื้นตัวดีกว่าคาดมากกำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท (+431% QoQ, -12% YoY) หากไม่รวมรายการพิเศษคือ กำไรเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงิน 119 ล้านบาท กำไรปกติเท่ากับ 2,362 ล้านบาท ดีกว่าที่คาดการณ์จากการที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงถึง 21% YoY แม้รายได้ค่าเช่าลดลง 15% YoY เนื่องจากยังมีการให้ส่วนลดค่าเช่าประมาณ 20% แต่ฟื้นตัว 73% QoQ หลังจากคลายล็อกดาวน์ โดยให้ส่วนลดค่าเช่าน้อยลง และจำนวนลูกค้าเข้าโครงการเฉลี่ย (Traffic) ฟื้นตัวมาที่มากกว่า 85% (ไม่รวมศูนย์การค้าในพื้นที่ท่องเที่ยว) โดยอัตราเข้าเช่าอยู่ที่ 92% เท่ากับปีก่อน

อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 53 bps YoY เป็น 49.3% แต่ฟื้นตัวอย่างมีนัยยะจาก 28.6% ใน 2Q63 จากการควบคุมต้นทุน และค่าไฟลดลง ส่วนค่าใช้จ่ายลดลง 29% YoY จากการลดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะการทำกิจกรรมการตลาดซึ่งหันมาเน้นทางออนไลน์มากขึ้น

บล.เมย์แบงก์ฯ คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/63 ฟื้นตัวดีขึ้น QoQ แต่ยังลดลง YoY เนื่องจากยังมีการให้ส่วนลดค่าเช่าอยู่บางส่วน แต่ส่วนลดจะค่อยๆ ลดลง อีกทั้งคาดว่า Traffic จะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 85% เนื่องจากเข้าสู่ช่วงเทศกาลและได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค ขณะที่การชุมนุมมีผลกระทบค่อนข้างจำกัด นอกจากนั้น CPN จะมีการรับรู้รายได้จากการโอนโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้น เนื่องจากการโอนโครงการส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงปลายปี

“กำไรปกติ 9 เดือนปี 63 คิดเป็น 98% ของคาดการณ์กำไรปีนี้ ทำให้มีอัพไซด์ต่อประมาณการของเรา ส่วนปีหน้าคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญจากฐานต่ำ และคาดว่าจะทยอยกลับมาปรับขึ้นค่าเช่าได้ตั้งแต่กลางปีหน้าเป็นต้นไป อีกทั้งมีการเปิดโครงการ Mixed use แห่งใหม่ใน 2H64 ที่ อยุธยา และ ศรีราชา แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (DCF) 66 บาท”บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุ