รายงานพิเศษ : เปิดกลยุทธ์กสิกรไทย “กินเด็ก” เพิ่มยอดลูกค้ารายย่อย

ถ้า #กินเด็กแล้วเป็นอมตะ ความพยายามจะ “กินเด็ก” ของธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ก็น่าจะทำให้เป็นอมตะได้เหมือนกัน เพราะถ้าคิดจะเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อยที่มีศักยภาพ คงจะไม่มีกลุ่มไหนที่น่าสนใจไปกว่า “นิสิตนักศึกษา”

ขัตติยา อินทรวิชัย

“กลุ่มนิสิตนักศึกษาเป็นกลุ่มที่ธนาคารกสิกรไทยไม่เคยมี ขณะที่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพมากที่สุด และในอนาคตลูกค้ากลุ่มนี้จะมีรายได้ในระดับ Middle Income ไปจนถึงลูกค้า Private Wealth ซึ่งเราก็หวังว่าเมื่อเขาจบออกไปเขาจะยังเป็นลูกค้าของกสิกรไทยต่อเนื่อง” น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าว

นอกจากนี้ น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า ในปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีลูกค้ารายย่อยเพียง 12% ของลูกค้าทั้งหมด เมื่อเทียบกับลูกค้า SME และลูกค้ารายใหญ่ ที่มีอยู่กลุ่มละมากกว่า 30%

“เพราะฉะนั้นถ้าต้องการทำให้พอร์ตลูกค้าของธนาคารมีความสมดุล ก็ต้องเพิ่มจำนวนลูกค้ารายย่อยให้มากขึ้น” น.ส.ขัตติยา กล่าว

แต่ในท่ามกลางการแข่งขันของอุตสาหกรรมธนาคาร กสิกรไทยจะใช้กลยุทธ์อะไรถึงจะ “เข้าถึง” วัยรุ่นยุคนี้ และมัดใจพวกเขาเอาไว้ได้… ถ้าไม่ใช่ “เทคโนโลยีดิจิทัล” และการเข้าถึงเด็กคงจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า จำนวนมากกว่า ถ้า “เข้าทางผู้ใหญ่”

เพราะฉะนั้นในช่วงนี้จึงเห็นธนาคารกสิกรไทยเดินสายจัดงานประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ 4 แห่ง ที่ต้องการพัฒนามหาวิทยาลัย ให้เหมาะ “ยุคดิจิทัล” ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ธุรกิจบัณฑิตย์, หอการค้าไทย และ ศิลปากร (ในเร็วๆ นี้)

Chula New Era
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพัฒนาร่วมกับธนาคารกสิกรไทย พัฒนา CU NEX Application ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่จะยกระดับการเรียนการสอน การพัฒนาองค์ความรู้ ตลอดจนการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างสรรค์การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพของนิสิต อาจารย์ และบุคลากรในรั้วมหาวิทยาลัย

“จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนามหาวิทยาลัยให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่เสมอจึงเฟ้นหาพันธมิตรที่เป็นผู้นำด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการเปลี่ยนผ่านสู่ ‘Chula New Era’ หรือ ‘จุฬายุคใหม่’ ยุคแห่งดิจิทัลเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ” ศาสตราจารย์ ดร. บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานเปิดตัว CU NEX Application เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561

ทั้งนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีนิสิตปัจจุบัน 38,000 คน อาจารย์และบุคลากร 8,000 คน ซึ่งในการใช้ CU NEX Application จะต้องมีบัญชีของธนาคารกสิกรไทย นอกจากนี้ ในอนาคต CU NEX Application จะขยายการให้บริการไปถึงศิษย์เก่าที่มีอยู่ประมาณ 200,000 คนด้วย

DPU X: Craft Your Future
ก่อนหน้านี้ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดตัวโครงการ “DPU X: Craft Your Future หรือสถาบันเพื่อพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการและบุคลากรแห่งอนาคต” โดยมีธนาคารกสิกรไทยเป็นพันธมิตรหลักของโครงการ ที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเชื่อมโยงกับการพัฒนามหาวิทยาลัยทั้งในด้านวิชาการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาศักยภาพคนรุ่นใหม่ให้สามารถสร้างนวัตกรรมพร้อมรับมือกับการแข่งขันในอนาคตได้

Digital Hybrid University
วันนี้ (10 มิ.ย. 2561) ธนาคารกสิกรไทยยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อก้าวสู่การเป็น “Digital Hybrid University” และยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตในรั้วมหาลัย คุณภาพการเรียนการสอน การทำงานของบุคลากร การพัฒนาองค์ความรู้ และสภาพแวดล้อมโดยรอบให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัล

“ลูกค้ากลุ่มนี้พร้อมที่จะทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ขณะที่ธนาคารกสิกรไทยมีเทคโนโลยีที่ค่อนข้างโอเค และที่สำคัญ คือ ไม่ใช่เพียงแค่การเข้ามาสนับสนุนด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่กสิกรไทยยังจะเป็นที่ปรึกษาโครงการเทคโนโลยีของนิสิตนักศึกษาอีกด้วย ทั้งด้านเทคโนโลยี การเงิน และการตลาด เพื่อทำให้โครงการต่างๆ สามารถนำออกสู่ตลาดได้จริง” น.ส.ขัตติยา กล่าว

อย่างไรก็ตาม น.ส.ขัตติยา เปิดเผยว่า หลังจากที่ “เข้าถึง” มหาวิทยาลัย 4 แห่งนี้แล้ว ธนาคารจะชะลอการให้ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ออกไปก่อน เพราะต้องการทุ่มเททรัพยากรของธนาคารกสิกรไทยไปกับโครงการที่มีอยู่แล้วให้เต็มที่ก่อน”

อย่างไรก็ตาม หากกลยุทธ์ “กินเด็ก” ประสบความสำเร็จ คงจะได้เห็นฐานลูกค้ารายย่อยของธนาคารกสิกรไทย รวมถึงยอดธุรกรรมผ่าน K Plus เพิ่มขึ้นอย่างมีศักยภาพทั้งในปัจจุบันและอนาคต

อ่านประกอบ

จุฬาฯ เปิดตัว CU NEX ด้วยเทคโนโลยีจากธนาคารกสิกรไทย