“ไทยออยล์” เผยแหล่งเงินทุนโครงการพลังงานสะอาด มาจากเงินสดคงเหลือ 2.5 พันล้านเหรียญฯ บวกกระแสดงินสดในอนาคต พร้อมออกหุ้นกู้อีก 1.5-2 พันล้านเหรียญ คาดก่อสร้างเสร็จและเปิดการดำเนินการเชิงพาณิชย์ไตรมาส 1 ปี 2566
บริษัทไทยออยล์ (TOP) แจ้งว่า การเข้าลงทุนโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ CFP) มูลค่าการลงทุนประมาณ 4,825 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 160,279 ล้านบาท และมีประมาณการดอกเบี้ยระหว่างการก่อสร้าง 151 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 5,016 ล้านบาทนั้น บริษัทฯ จะใช้แหล่งเงินทุนหลักคาดว่ามาจากเงินสดคงเหลือปัจจุบันประมาณ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนี้ใช้เงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินและหรือเงินทุนจากการออกและเสนอขายตราสารหนี้ เช่น ออกหุ้นกู้ เป็นต้น จำนวนประมาณ 1,500-2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่วนที่เหลือจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการของบริษัทฯ ในอนาตอีกประมาณ 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
บริษัทฯ จะใช้เวลาในการลงทุนและพัฒนาโครงการ CFP ประมาณ 4-5 ปี ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 1 ปี 2566
สำหรับโครงการ CFP ประกอบด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ให้สามารถกลั่นน้ำมันดิบชนิดเบา ที่บริษัทฯ กลั่นอยู่ในปัจจุบัน ทำให้สามารถลดต้นทุนการจัดหาวัตถุดิบลงได้ นอกจากนี้จะติดตั้งหน่วยกลั่นที่สามารถเปลี่ยนผลิตภัณฑ์น้ำมันชนิดหนักที่มีมูลค่าต่ำและกำมะถันสูง ได้แก่ น้ำมันเตา และยางมะตอยให้เป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันชนิดเบา กำมะถันต่ำตามมาตรฐานยูโร 5 ที่มีคุณค่าสูงขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ได้แก่ น้ำมันอากาศยานและน้ำมันดีเซล ทำให้มูลค่าของผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เพิ่มสูงขึ้น
อีกทั้งเป็นการตอบสรองและรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในการปรับปรุประสิทธิภาพดังกล่าว บริษัทฯ จะก่สร้างหน่วยการกลั่นน้ำมันดิบใหม่ที่ขนาดกำลัการกลั่นสูงทดแทนหน่วยกลั่นเดิม ส่งผลให้กำลังการกลั่นน้ำมับดิบเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 275,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 400,000 บารเรลต่อวัน ก่อให้เกิดการประหยัดด้านขนาด (Economies of scale) ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถยืนหยัดมั่นคงในธุรกิจการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมในอนาคตและเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้เข้าลงทุนโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา โดยจะนำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาในวันที่ 27 ส.ค.2561