KTAM เปิดตัวกองทุน “มั่งมีศรีสุข” จัดพอร์ต 4 แบบ รับมือผันผวน

บลจ.กรุงไทย เปิดขาย IPO กองทุนมั่งมีศรีสุข 20-28มี.ค.นี้ เน้นจัดพอร์ตการลงทุนสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี ผ่าน 4 กองทุนตามระดับความเสี่ยง

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายครั้งแรก ( IPO) กองทุนมั่งมีศรีสุข ในวันที่ 20-28 มี.ค.2561 ราคาหน่วยลงทุนละ 10 บาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท เน้นการลงทุนโดยการจัดสรรเงินลงทุน (Asset Allcation ) ในหลายสินทรัพย์ทั่วโลกผ่าน Fund of Funds ที่อยู่ภายใต้การบริหารและจัดการของบริษัทที่มีผลดำเนินงานโดดเด่น มีแนวโน้มที่ดีและจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งใม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยมีกลยุทธ์การลงทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด ( Active Management )

“หลังจากปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงไทยปรับตัวสูงขึ้น จึงเริ่มเห็นตลาดหลายแห่งปรับตัวลงมาบ้าง บางตลาดก็ผันผวนและบางตลาดก็ยังไปต่อได้ แต่ต้องเลือกตลาดให้ถูก กองทุนมั่งมีศรีสุขจึงออกมาเป็นทางเลือกให้นักลงทุนที่เริ่มกังวลตลาดหุ้น รวมถึงนักลงทุนที่เคยลงทุนแต่ในกองทุนเทอมฟันด์ที่อยากขยับมาลงทุนในหุ้นบ้าง ซึ่งกองทุนจะตอบโจทย์ความเสี่ยงของนักลงทุนแต่ละราย”นางชวินดา กล่าว

สำหรับกองทุนมั่งมีศรีสุข แบ่งเป็น 4 กองทุน ที่มีการกระจายน้ำหนักการลงทุนให้เหมาะสมกับวัฐจักรเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลาและความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ (Strategic Asset Allcation ) ซึ่งผู้จัดการกองทุนสามารถเพิ่มหรือลดน้ำหนักสินทรัพย์ได้ตามความเหมาะสม ให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาด โดยแต่ละกองทุนมีการกระจายน้ำหนักการลงทุนในตราสารประเภทต่างๆที่แตกต่างกันไป ตามระดับความเสี่ยง

กองทุนเปิดกรุงไทยมั่งคั่ง( KTMUNG) มีความผันผวนมากสุดและผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้เต็มที่ เข้าใจในผลตอบแทนและความผันผวนของสินทรัพย์ต่างๆในระยะยาว ซึ่งกองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ 15% ตราสารทุน 75% และตราสารทางเลือก เช่น ทองและทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (รีทส์) 10 % สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังที่เสมือนลงทุนจริง (ม.ค.59 – ธ.ค.60) ผลตอบแทนอยู่ที่ 21.29% เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 10.12 % โดยกองทุนใช้ผลตอบแทน 9% ต่อปี เป็นตัวชี้วัด

กองทุนเปิดกรุงไทยมีทรัพย์ ( KTMEE) เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนมาก และให้ผลตอบแทนที่สูงด้วยการลงทุนที่เสี่ยง น้อยกว่ากองทุน KTMUNG เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ตั้งแต่ปานกลางถึงสูง โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ 40% ตราสารทุน50% และตราสารทางเลือก 10% สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง (ม.ค.59-ธ.ค.60) ผลตอบแทนอยู่ที่ 21.13% เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 10.05% ใช้อัตราผลตอบแทน 7% ต่อปี เป็นตัวชี้วัด

กองทุนเปิดกรุงไทยศรีสิริ (KTSRI) ลงทุนในตราสารหนี้ 65% ตราสารทุน 25% และตราสารทางเลือก 10% เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง และต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง (ม.ค.59-ธ.ค.60) ผลตอบแทนอยู่ที่ 12.16% เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 5.90% ใช้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี เป็นตัวชี้วัด

กองทุนเปิดกรุงไทยสุขใจ (KTSUK) เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและมีความผันผวนน้อย โดยลงทุนในตราสารหนี้ 80% ตราสารทุน 10% และตราสารทางเลือก 10% เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง (ม.ค.59- ธ.ค.60 ) อยู่ที่ 8.63% เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 4.22% ใช้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 3% ต่อปี เป็นตัวชี้วัด

นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายจัดการลงทุน บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า บริษัทยังมีมุมมองที่ดีกับตลาดหุ้นจีน อินเดีย รวมถึงตลาดพัฒนาแล้วอย่างยุโรป ญี่ปุ่นและการลงทุนในหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ในสหรัฐ เป็นต้น อย่างไรก็ตามทั้ง 4 กองทุนเหมาะกับการลงทุนระยะเวลา 3 ปีขึ้นไป

“สำหรับผู้ที่เกษียณแล้วอยากลงทุน แนะนำกองทุนเปิดกรุงไทยสุขใจ ซึ่งลงทุนในหุ้นเพียง 10% โดยกองทุนเน้นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ”นายวีระ กล่าว