HoonSmart.com>> บอร์ดยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย ไฟเขียวซื้อ “โซลาร์ฟาร์ม” ในเวียดนาม กำลังผลิต 46.7 เมกะวัตต์ มูลค่า 749 ล้านบาท พร้อมอนุมัติเพิ่มทุนจำนวน 4 พันล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในอัตรา 1.6675 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคา 0.15 บาทต่อหุ้น คาดระดมทุนได้ 600 ล้านบาท นำเงินไปใช้ลงทุน ด้านรักษาการ CEO ประเมินครึ่งปีหลังสัญญาณดีฟื้นตัวชัดเจน เตรียมปิดดีลร่วมลงทุนโครงการในเวียดนามเพิ่มเติม เดินหน้าเก็บเกี่ยวรายได้ หนุนผลงานปี 63 เข้าสู่โหมดเทิร์นอะราวด์
นายวิชญ์ สุวรรณศรี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 อนุมัติให้เข้าลงทุนในหุ้นของบริษัท AIDC Solar Power Number 1 Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมายสิงคโปร์ โดยการเข้าถือหุ้นในบริษัท Binh Thuan Solar Power Investment Joint Stock Company (B-Solar) ที่ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Song Luy 1 Solar Power Plant ในเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วน 83.33% ในราคารวมทั้งสิ้น 23.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 748.99 ล้านบาท คาดกระบวนการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้
ทั้งนี้ AIDC Solar Power Number 1 ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับผู้ถือหุ้นเดิม และได้ดำเนินการขออนุญาตถือหุ้นใน B-Solar และได้รับอนุญาตให้ถือหุ้นใน B-Solar จำนวน 96% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดจาก Department of Planning and Investment แห่งประเทศเวียดนามแล้วเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นทางทะเบียน ซึ่งเมื่อสำเร็จแล้วจะส่งผลให้เป็นผู้ถือหุ้นของ B-Solar ตามกฎหมายเวียดนามอย่างสมบูรณ์
ขณะที่ B-Solar เป็นบริษัทที่ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนาม และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับ Vietnam Electricity (EVN) ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าขนาด 46.7 เมกะวัตต์ติดตั้ง (MW) เป็นระยะเวลา 20 ปี โดย B-Solar ได้ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ แล้วตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2562
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 กันยายน 2563 เพื่อพิจารณาเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 5.34 พันล้านบาท จากเดิม 3.34 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 4 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ในอัตราส่วน 1.6675 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.15 บาท กำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นในวันที่ 8-15 ตุลาคม 2563
ทั้งนี้คาดว่าจะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนราว 600 ล้านบาท ซึ่งจะใช้รองรับการเข้าลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มเวียดนามไม่เกิน 400 ล้านบาท ภายในเดือนตุลาคมนี้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการอื่น ๆ ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่เกี่ยวกับธุรกิจพลังงาน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจสาธารณูปโภค ไม่เกิน 250 ล้านบาท ภายในไตรมาส 2/2564
“ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดี และคาดว่าผลประกอบการปีนี้จะสามารถเทิร์นอะราวด์ โดยพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ เนื่องจากมีรายได้จากธุรกิจพลังงาน ซึ่งเป็นธุรกิจหลักในปัจจุบัน โดยเฉพาะการเข้าลงทุนเพื่อซื้อกิจการ ในลักษณะการร่วมทุนโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศเวียดนามคาดว่า จะมีความชัดเจนมากขึ้นในครึ่งปีหลัง และน่าจะสนับสนุนผลงานในปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะเดียวกันยังมีโครงการทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา เพื่อเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมอีก” นายวิชญ์ กล่าว