HoonSmart.com>>”อาฟเตอร์ ยู” เจ็บจากล็อกดาวน์ ปิดให้บริการนั่งทานที่ร้าน รายได้จากการขายหายวับ 54% เหลือ 144 ล้านบาท กำไรขั้นต้นหดแรง 61% เหลือ 79 ล้านบาท ลูกค้าสั่งซื้อกลับบ้านเจอต้นทุนบรรจุภัณฑ์สูงขึ้น เร่งลดค่าใช้จ่าย ชะลอการเปิดสาขา ขยายร้านกาแฟ “มิกก้า” จาก 3 สาขากระโดดไป 40-50 แห่ง ออกเมนูเพิ่ม
บริษัท อาฟเตอร์ ยู (AU) รายงานผลงานงวดไตรมาสที่ 2/2563 ขาดทุนสุทธิ 3 ล้านบาท พลิกจากกำไรสุทธิ 63 ล้านบาทในช่วงเดียวกันในปีก่อน และรวม 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 10 ล้านบาท ทรุดหนักจากกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท
ขาดทุนที่เกิดขึ้นมาจากรายได้จากการขายลดลง 54% เหลือ 144 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2 /2563 และกำไรขั้นต้นลดลง 61% เหลือ 79 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากการปิดให้บริการส่วนนั่งทานในร้าน ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.-16 พ.ค.2563 ทำให้ยอดขายสินค้าซื้อกลับบ้านและสั่งซื้อผ่านบริการส่งอาหารสูงขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่า เพราะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ที่สูงขึ้น
ส่วน 6 เดือนแรกปีนี้มีรายได้จากการขาย 363 ล้านบาท ลดลง 39% กำไรขั้นต้นจำนวน 216 ล้านบาท ลดลง 44%
แนวทางการแก้ปัญหา บริษัทได้เปิดให้บริการส่วนนั่งทานในร้านตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา และในช่วงโควิด-19 ระบาด บริษัทได้ลดค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย รวมถึงต่อรองกับผู้ให้เช่าสถานที่ เพื่อขอลดค่าเช่าในช่วงปิดให้บริการบางสาขา และขอต่อระยะเวลาในการลดค่าเช่าจนถึงไตรมาสที่ 3/2563
นอกจากนั้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 1/2563 บริษัทได้เปิดให้บริการร้านกาแฟภายใต้เครื่องหมายการค้า”มิกก้า”จำนวน 3 สาขา ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี โดยมีเป้าหมายเพิ่มสาขาในแหล่งสำนักงาน และเพิ่มจุดให้บริการในร้านขนมหวานอาฟเตอร์ยู ภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสาขาประมาณ 40-50 สาขา และเพิ่มอีก 100 สาขาในปี 2564
ขณะเดียวกันบริษัทมีการออกผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาลในช่วง 6 เดือนแรก 4 เมนู พร้อมกับชะลอการเปิดสาขาใหม่ คาดว่าในครึ่งปีหลังจะเปิดเพียง 1 แห่ง ส่วนแฟรนไชส์ที่ฮ่องกงพร้อมเปิดให้บริการภายใน 1-2 เดือนหลังจากการเดินทางระหว่างประเทศกลับสู่ภาวะปกติ
ด้านราคาหุ้น AU ไหลลงจาก 11 บาทมาอย่างต่อเนื่อง และปิดที่ 8.70 บาท ในวันที่ 10 ส.ค. ต่างกันมากเมื่อเทียบกับราคาสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ระดับ 16.90 บาท แต่สูงกว่าระดับต่ำสุดที่ 5.50 บาท