SCBAM : “ความกังวลเรื่องการระบาดไวรัส COVID-19 รอบที่ 2 เริ่มกลับมา”

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลง จากการส่งสัญญาณของการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำที่ 0.00%–0.25% ต่อไปจนถึงปี 2565 ประกอบกับการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ในสหรัฐฯในรอบที่สอง (2nd Wave) เนื่องจากตัวเลขการระบาดของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง โดยเฉพาะตัวเลขการระบาดในรัฐ Texas ที่สูงขึ้นอย่างมาก ประกอบกับตัวเลขการติดเชื้อในประเทศจีนกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะที่การประท้วงในสหรัฐฯ เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นและแพร่ขยายไปยังประเทศแถบยุโรป นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นในระยะข้างหน้า

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยนที่ระดับต่ำต่อไปจนถึงปี 2022 โดย FED มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 0.00-0.25% และเข้าซื้อสินทรัพย์ที่อัตรา 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือนเป็นอย่างน้อย โดยแบ่งเป็นการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล (Treasury) เดือนละ 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน ซึ่งออกโดยหน่วยงานภาครัฐ (MBS) เดือนละ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ FED พร้อมใช้เครื่องมือที่มีเพื่อหนุนเศรษฐกิจเนื่องจากเศรษฐกิจยังเผชิญความเสี่ยงอยู่มาก

ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ปรับฟื้นตัวดีขึ้นในเดือน พ.ค. นำโดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านราย จากการปรับตัวดีขึ้นของภาคบริการ ไม่ว่าจะเป็นการโรงแรมและพักผ่อน รวมถึงภาคการให้บริการด้านสุขภาพ ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลดลงจากเดิม 1.4% เป็น 13.3% ในเดือนก่อนหน้าหนุนจากการจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวดีขึ้น

ตัวเลขส่งออกของจีนพลิกกลับมาหดตัวในเดือน พ.ค. โดยยอดการส่งออก (Exports) หดตัวที่ระดับ -3.3% YoY จากที่ขยายตัว 3.5% ในเดือนเม.ย. แม้ว่าสินค้ากลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับการรักษาพยาบาลและการป้องกันตัวเองจากไวรัสยังคงขยายตัวดีต่อเนื่อง นำโดยผ้าและสิ่งทอที่นำมาใช้เป็นวัสดุทำหน้ากากอนามัยยังขยายตัวแรงถึง 77.3% YoY อย่างไรก็ตามภาคการส่งออกของจีนยังคงอ่อนแอตามอุปสงค์โลก สะท้อนจากดัชนี PMI ของประเทศหลักทั่วโลกยังอยู่ในเกณฑ์หดตัวที่ต่ำกว่า 50 จุด และผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ในประเทศสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศแถบยุโรปซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของจีน

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง เนื่องจากในไตรมาสที่ 2 ตลาดน้ำมันจะยังคงอยู่ในภาวะ Oversupply โดยที่ EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ 538 ล้านบาร์เรล ซึ่งกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งราว +5.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ลิเบียซึ่งเป็นสมาชิก OPEC ที่ได้รับการยกเว้นการบังคับใช้โควตาตามข้อตกลงลดการผลิตของกลุ่ม OPEC+ เนื่องจากความไม่สงบในประเทศ จะกลับมาเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ 3 แสนบาร์เรลต่อวันในช่วง 3 เดือนข้างหน้า

กลยุทธ์การลงทุน

“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ (SCBSET)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX (SCBBANKING)

“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET ENERGY SECTOR INDEX (SCBENERGY)

“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นเกาหลี (SCBKEQTG)

“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ออยล์ (SCBOIL)