HoonSmart.com>>ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมิน กรณี เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ยืดเยื้อเกิน 3 เดือนแต่ไม่เกิน 6 เดือน อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอาเซียน 2.4-3.4 พันล้านดอลลาร์ฯ ส่วนไทยได้รับความเสียหาย 500-700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 0.09-0.13% ของ GDP ทั้งปี
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า หากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยืดเยื้อเกิน 3 เดือน (แต่ไม่เกิน 6 เดือน) เศรษฐกิจจีนอาจเติบโตต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ราว 1% และอาจลงไปแตะที่ระดับประมาณ 4.7% จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอาเซียน มูลค่าประมาณ 2.4-3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 0.07-0.11% ของ GDP อาเซียนทั้งหมด
ส่วนของประเทศไทย ผลกระทบอาจอยู่ในระดับปานกลาง คาดเสียหายอาจจะอยู่ในระดับ 500-700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 0.09-0.13% ของ GDP ทั้งปี สำหรับเวียดนาม สิงคโปร์ สปป.ลาว และกัมพูชา มีการพึ่งพาจีนในระดับสูง แต่ผลกระทบต่อแต่ละประเทศ ยังขึ้นอยู่กับความเข้มแข็ง โครงสร้างเศรษฐกิจ ตลอดจนความสามารถในการปรับตัวเพื่อลดทอนผลกระทบจากการชะลอลงของเศรษฐกิจจีนอีกด้วย กลุ่มประเทศมีสัดส่วนพึ่งพาจีนต่ำ ได้แก่ บรูไน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
“ภาคการส่งออกของไทยได้รับผลกระทบสูงสุดถึงราว 300-400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจีนถือเป็นตลาดส่งออกขนาดใหญ่อันดับ 2 ของไทยรองจากสหรัฐฯ โดยมูลค่าการส่งออกของไทยไปยังจีนในปี 2562 สูงถึง 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบรองลงมา โดยภาคการท่องเที่ยวของไทยมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากนักท่องเที่ยวจีนถึงราว 30% ในทางตรงกันข้าม ไทยพึ่งพาการลงทุนจากจีนในสัดส่วนไม่มากนัก ดังนั้น ผลกระทบโดยตรงของการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนต่อการลงทุนในไทยจึงไม่สูงนัก แต่การที่เศรษฐกิจในกลุ่มอาเซียนชะลอตัวลงจะส่งผลกระทบต่อการค้า การลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยวภายในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงในไทย อย่างมีนัยสำคัญ”บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ