ธปท.เปิดมิติใหม่ของการทำธุรกรรมการเงินตราต่างประเทศของเอกชนไทย อนุมัติ 6 บริษัทใหญ่ การบินไทย-มินีแบ-โคเวสโตรแอลจี-อีเลคทรอนิคส์ -สตาร์ ปิโตรเลียมฯ-มิตรผลฯขยายขอบเขตการทำธุรกรรมได้กว้างขึ้น
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า วันที่ 31 พ.ค. ธปท. ได้ให้ความเห็นชอบให้บริษัท 5 รายที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ หรือ Qualified Company และให้มีศูนย์บริหารเงิน 1 ราย ขยายขอบเขตการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ กว้างกว่าขอบเขตที่ศูนย์บริหารเงินหรือ Treasury Center ได้รับในปัจจุบัน
สำหรับกลุ่มแรก ประกอบด้วย 5 บริษัท ได้แก่ 1. บริษัท การบินไทย (THAI) 2. บริษัท เอ็นเอ็มบี-มินีแบ ไทย จำกัด 3. บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด 4. บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด 5. บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) รวมถึงศูนย์บริหารเงิน 1 แห่งคือ บริษัท มิตรผล เทรชเชอรี่ เซ็นเตอร์ จำกัด
“ธปท. เล็งเห็นประโยชน์และความสนใจของภาคเอกชนต่อโครงการนี้ ธปท. จึงขยายช่วงเวลายื่นขอความเห็นชอบออกไปจนถึงวันที่ 16 พ.ย. 2561 และปรับเปลี่ยนเกณฑ์คุณสมบัติให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของทั้งบริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดย ธปท. จะติดตามผลของโครงการ และจะพิจารณาขยายการผ่อนคลายดังกล่าวให้ครอบคลุมถึงผู้ประกอบธุรกิจในวงที่กว้างขึ้นต่อไปด้วย” ผู้ว่าฯ ธปท.ระบุ
ในส่วนครึ่งหลังของปี 2561 จะเข้าสู่ระยะที่สองของการปฏิรูปกฎเกณฑ์ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งจะมุ่งเน้นที่กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และบุคคลรายย่อยให้สามารถบริหารจัดการเงินตราต่างประเทศมีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากขึ้น เช่น การปรับปรุงหลักเกณฑ์และลดเอกสารประกอบการทำธุรกรรม การรวมประเภทบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลายประเภทเข้าด้วยกัน และการผ่อนคลายการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยไม่ผ่านตัวแทนการลงทุน
นอกจากนี้ ยังจะได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และธุรกิจโอนเงินระหว่างประเทศ ทั้งในด้านคุณสมบัติและรูปแบบการให้บริการ เพื่อรองรับการให้บริการรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น และเพิ่มทางเลือกในการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ ซึ่ง ธปท. จะได้นำเสนอแผนการผ่อนคลายเหล่านี้ต่อกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาต่อไป
ด้านน.ส.วชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวว่า ธปท. จะกำกับดูแล Qualified Company โดยการวิเคราะห์ความสอดคล้องของการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศกับแผนธุรกิจและนโยบายบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน หากพบความไม่สอดคล้อง ธปท. จะมีการหารือกับบริษัท และพิจารณาทบทวนการให้ความเห็นชอบเป็น Qualified Company แก่บริษัทนั้น ๆ ตามความเหมาะสม
สำหรับรายละเอียดการผ่อนคลายเกณฑ์คุณสมบัติของบริษัทและกลุ่มบริษัทที่สามารถยื่นขอความเห็นชอบเป็น Qualified Company ต่อ ธปท. ได้แก่ การผ่อนคลายคุณสมบัติของบริษัทและกลุ่มบริษัทด้านปริมาณธุรกรรมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศและธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศอื่น ๆ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมารวมกัน จากไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า
ยกเลิกข้อกำหนดการทำธุรกรรมที่แต่เดิมบริษัทต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อชำระสินค้าบริการและการลงทุนหรือกู้ยืมประกอบด้วย จึงจะสามารถดำเนินการได้ เป็นการทำธุรกรรมเพื่อวัตถุประสงค์เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็พอ ได้แก่ ค่าสินค้าบริการ การรับเงินลงทุนหรือการลงทุนในกิจการในต่างประเทศ การให้กู้ยืมหรือกู้ยืมจากกิจการในต่างประเทศ หรือธุรกรรมอนุพันธ์ที่มีการยื่นขออนุญาตจาก ธปท. กรณีหนึ่งกรณีใด