STEC กำไรแค่ 272 ลบ.หดตัว 28% รายจ่ายโตแซงรายได้ Q3/62

HoonSmart.com>>หุ้น ซิโน-ไทย ฯ เจอข่าวลบซ้ำเติม ไตรมาส 3 รายได้รวม 9,090 ล้านบาท โต 25% ค่าใช้จ่ายเพิ่ม 28% แถมขาดทุนจากการถูกฟ้องคดีอีก 64.96 ล้านบาท รมว.คลังยันไม่ขึ้นบัญชีดำบริษัท ในการเข้าประมูลงาน หลังผู้บริหารพัวพันคดีเรียกสินบน

บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2562 ว่ามีกำไรสุทธิเพียง 272 ล้านบาท ลดลง 28.71% จากที่มีกำไรสุทธิ 382 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน  เทียบกับไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.87% และรวม 9 เดือนปีนี้กำไรทั้งสิ้น 883 ล้านบาท ลดลง 9.79% จากที่มีกำไรสุทธิ 979 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน

นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ STEC กล่าวว่า ในไตรมาส 3/2562 บริษัทมีรายได้รวม 9,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.30% ขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวม 8,733 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.80% โดยมีกำไรขั้นต้น 487 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา 5.40%

“รายได้หลักที่สำคัญมาจากการก่อสร้างจำนวน 9,002 ล้านบาท และมีค่าเช่าจำนวน 33 ล้านบาท เช่นเดียวกัน ค่าใช้จ่ายหลักคือต้นทุนงานก่อสร้าง 8,542 ล้านบาท และมีผลขาดทุนจากการถูกฟ้องคดีจำนวน 64.96 ล้านบาท” บริษัทระบุ

ส่วน 9 เดือนปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 18,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 5,693 ล้านบาทหรือ 31% ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 33.58% เป็น 17,144 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากต้นทุนงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น

ทางด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดผู้บริหาร 2 รายของ STEC สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐในการเรียกรับสินบนจากบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่รับจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอมแลกกับการเข้าใช้ท่าเทียบเรือว่า คงไม่สามารถระบุได้ว่าจะขึ้นบัญชีดำ (Black List) กับ STEC ในการเข้าประมูลโครงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ เพราะต้องรอให้ขั้นตอนทางกฎหมายถึงที่สุดก่อน

ทั้งนี้ เบื้องต้นได้สั่งการให้กรมบัญชีกลางตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียด ตลอดจนขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ยืนยันว่าขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐมีความโปร่งใส และยึดหลักคุณธรรม

เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา  ราคาหุ้น STEC ปรับตัวลงแรงเกือบ 20%  รับข่าวป.ป.ช.ชี้มูลความผิด 2 ผู้บริหาร วันรุ่งขึ้น ราคาฟื้นตัว เปิดที่ 15.10 บาท แต่ไปต่อไม่ไหว สุดท้ายปิดเท่ากับวันก่อนที่ 14.40 บาท