ราคาน้ำมันดิบลงต่อ หลังภาคผลิตสหรัฐฯ ต่ำสุดรอบ 10 ปี

HoonSmart.com>> ราคาน้ำมันดิบลดลงต่อเนื่อง หลังดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ ต่ำสุดรอบ 10 ปี กดราคา WTI ลบ 45 เซนต์ ปิด 53.62 เหรียญสหรัฐฯ เบรนท์ลงแตะ 58.89 เหรียญสหรัฐฯ

บริษัท ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ (U.S. Manufacturing Activity) ในเดือนก.ย. 62 ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ที่ระดับ 47.8จากการส่งออกของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ และจีน

ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยบวกจากการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปก ปรับลดลง 750,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ย. 62 ลงไปแตะระดับ 28.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา นอกจากนี้การผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียและสหรัฐฯ ได้ปรับตัวลดลงไปแตะระดับ 11.24 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ย. 62 และ 11.81 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค.62 ตามลำดับ

ด้านตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลด 5.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่ม 1.6 ล้านบาร์เรล โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการของสถาบันสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) จะประกาศในวันนี้

อย่างไรก็ตามเอกวาดอร์ ประกาศที่จะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มโอเปกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 นี้ หลังประสบปัญหาทางด้านการเงินภายในประเทศอย่างต่อเนื่องและไม่ต้องการที่จะลดกำลังผลิตน้ำมันดิบตามข้อตกลงของกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่ม ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดตลาดวันที่ 1 ต.ค. 62 อยู่ที่ 53.62 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 0.45 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่วนเบรนท์ปิด 58.89 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 0.36 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล