HoonSmart.com>> “อินฟราเซท” มั่นใจธุรกิจโตอีกมาก ตามเทรนด์พัฒนาประเทศ เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง นำบริษัทเข้าตลาด mai สร้างภาพลักษณ์ รับงานขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น เผยผลโรดโชว์ กองทุนสนใจลงทุนหุ้นเติบโตระยะยาว
นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ อินฟราเซท (INSET) เปิดเผยว่า บริษัทมีจุดแข็งที่มีประสบการณ์กว่า 13 ปี ทำงานครบวงจรใน 4 ธุรกิจหลัก ส่งมอบงานภายในเวลาที่กำหนด ต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรที่ดี โดยเฉพาะรับเหมาก่อสร้างที่มีอยู่ทั่วประเทศ ต้นทุนทางการเงินไม่มากนัก คิดเป็นสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) 1 เท่า และยังมีรายได้แน่นอนสม่ำเสมอ สัดส่วน 10-15% ใน 5 ปีข้างหน้า ในการให้บริการหลังการขาย
แนวโน้มผลการดำเนินงานยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก อีก 5-10 ปี ตามแผนพัฒนาของประเทศที่มีการขยายการลงทุน พัฒนาระบบสาธารณูปโภค รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ส่วนผลงานในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 15-20% จากการทยอยรับรู้รายได้โครงการที่อยู่ระหว่างรอการส่งมอบ (Backlog) มูลค่ารวม 2,739 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2562 โดยในปีนี้จะรับรู้รายได้สัดส่วน 30-40% ส่วนที่เหลือจะรับรู้ต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
ด้านโครงสร้างรายได้ของบริษัทมาจาก 1.การรับสร้างศูนย์ข้อมูล (ดาต้า เซนเตอร์ )และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มีสัดส่วน 40 % ของรายได้รวม เช่น ระบบของรถไฟฟ้าสีต่างๆ 2. สร้างโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายมือถือ สัดส่วน 10 % 3. งานสายสัญญาณออฟติคไฟเบอร์ ให้กับค่ายสื่อสาร สัดส่วน 40 % และ 4. บริการหลังการขาย
“ผมอยู่ในธุรกิจนี้มานาน 25 ปี ไม่เคยทำงานไม่ทันกำหนด บริษัทไม่มีเงินกู้สถาบันการเงิน หนี้สินที่เกิดขึ้นมาจาการซื้ออาคารเมื่อปี 2561 เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai) จะมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น และยังสามารถรับงานที่ใหญ่ขึ้น มูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านบาท แต่ยอมรับว่า อัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ที่ลดลง จาก 19% ในปี 2560 มาอยู่ที่ 17% ในปีที่ผ่านมา และ 16% ในครึ่งแรกของปีนี้ เพราะรับงานโครงการใหญ่ขึ้น มาร์จิ้นไม่ดีเท่างานขนาดเล็ก แต่พยายามรักษาให้อยู่ระดับนี้ให้ได้ ชดเชยกับรายได้ที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายสัญญาณและศูนย์ข้อมูลบิ๊กดาต้า คาดว่าผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่จะเติบโตเฉลี่ย 17.6% นับจากปี 2561 มีจำนวน 125 ล้านเลขหมาย ในปี 2565 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 147 ล้านเลขหมาย และจำนวนอินเทอร์เน็ตล้าน เติบโตเฉลี่ย 55.6% จาก 9 ล้านจุด เป็น 14 ล้านจุด “นายศักดิ์บวรกล่าว
วัตถุประสงค์ของการระดมทุน จะนำเงินไปใช้ขยายธุรกิจ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างโครงข่ายท่อร้อยสายสื่อสารลงใต้ดินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 มูลค่าราว 790 ล้านบาท และโครงการวางระบบเครือข่ายและอุปกรณ์ WiFi ของโครงการ Google Station จำนวน 5,000 จุด มีรายได้เฉลี่ยจุดละ 1,200-1,500 บาท เป็นสัญญาระยะ 5 ปีรวมทั้งเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยไม่มีการนำเงินไปชำระหนี้เลย
นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ เปิดเผยว่า INSET เตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 146 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คาดว่าจะเปิดให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อหุ้นได้ในช่วงปลายเดือน ก.ย. ก่อนจะเข้าซื้อขายใน mai ภายในเดือน ต.ค.นี้ จากการโรดโชว์ให้ข้อมูลแก่นักลงทุน โดยเฉพาะกองทุนแสดงความสนใจมาก กำหนดจะะเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันในประเทศ สัดส่วน 30% ส่วนราคาขายจะอิงค่า P/E ประมาณ 18 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของบริษัทที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน
“มั่นใจว่า INSET จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก เพราะอยู่ในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในระยะยาว รองรับการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีการสื่อสารเข้าสู่ระบบ 5G โดยธุรกิจของ INSET มีความโดดเด่น ด้านการเป็นผู้ประกอบการครบวงจรเพียงไม่กี่รายในอุตสาหกรรม และยังมีโอกาสได้งานเพิ่มขึ้นอีกมาก”นายเล็ก กล่าว
อ่านประกอบ
“ศักดิ์บวร พุกกะณะสุต” มุ่งมั่นสร้าง “อินฟราเซท” ความภูมิใจของกรมส่งเสริม ฯ
