PPPM ขายทรัพย์คืนหุ้นกู้ เล็งยกล็อต ACAP -STAR

HoonSmart.com>>PPPM ดิ้นหานักลงทุนยกล็อตหุ้น ACAP-STAR หาเงินอุดสภาพคล่อง ยันหุ้นกู้ 3 ชุด ที่เหลือมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท จ่ายตรง จ่ายครบ  ปิดดีลหุ้นกู้ชุด 1 มูลค่า 260 ล้านบาท ใช้เงินเพิ่มทุนมาจ่าย ส่วนชุด 2 ยืดเวลาไถ่ถอนอีก 330 วัน ไปจ่าย 2 ก.ค. 63 

นายสนทยา น้อยเจริญ ที่ปรึกษาการเงินและที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท ฟีนิกซ์ แอดไวเซอรี่  เซอร์วิสเซส ในฐานะที่ปรึกทางการเงินบริษัท พีพี ไพร์ม (PPPM)  เปิดเผยว่า บริษัท ฯ มี 3 แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้หุ้นกู้ที่เหลือชุดที่ 2-5    โดย 1.บริษัท ฯ ได้ขายโรงไฟฟ้าพลังงานใต้พิภพ ในประเทศญี่ปุ่นแล้ว มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท  โดยรับเงินมัดจำ 2 งวด จำนวน 170 ล้านบาท  พยายามให้การซื้อขายจบภายในเดือนธันวาคม 2562 นี้

แนวทางที่ 2 ขายทรัพย์สินที่ไม่ใช้ดำเนินการ และ 3 ขายหุ้นบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) และหุ้นบริษัท สตาร์ ยูนิเวอร์แซล เน็ตเวิร์ค (STAR)

นายสนทยา กล่าวว่า การขายหุ้น ACAP-STAR ซึ่ง PPPM ถือหุ้นจำนวนมากนั้น ไม่น่ามีปัญหา เพราะเป็นการขายยกบิ๊กล็อต ง่ายกว่าการขายในกระดาน เชื่อว่าสามารถหานักลงทุนมารับซื้อได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของทั้ง 2 บริษัทด้วย

ที่ปรึกษากฎหมาย กล่าวยืนยันว่า บริษัท PPPM มีนโยบายชัดเจน ไม่หนี  ชำระเงินต้นครบ ยืดเวลาจ่ายแต่มีดอกเบี้ยเพิ่ม การันตีโดยคณะกรรมการบริษัท หุ้นกู้ที่เหลืออีก 3 ชุด มูลค่ารวม 541 ล้านบาท จะไม่มีการผิดชำระเกิดขึ้นซ้ำอีก การขายทรัพย์สิน-หุ้นเพียงพอชำระหนี้หุ้นกู้ทั้งหมด ซึ่งหุ้นกู้ทุกชุด ขายให้กับนักลงทุนประเภท ไฮเน็ตเวิร์ค  กว่า 100 ราย

“สรุปหุ้นกู้ชุดที่ 1 มูลค่า 260 ล้านบาท PPPM นำเงินเพิ่มทุนมาไถ่ถอนคืนครบทั้งจำนวนแล้ว ส่วนชุดที่ 2 มูลค่า 319.50 ล้านบาท ได้ขอผู้ถือหุ้นกู้ ยืดเวลาออกไป 330 วัน หรือไถ่ถอน 2 ก.ค. 2563”

ที่ปรึกษากฎหมาย กล่าวว่า ปัญหาการผิดนัดไถ่ถอนคืนหุ้นกู้ชุด 1-2 นั้น  ยืนยัน ไม่ได้เกิดจากการนำเงินไปลงทุนในหุ้น หรือการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ แต่เป็นปัญหาจากช่วงเวลาการไถ่ถอนคืนหุ้นกู้ใกล้กัน ซึ่งตามหลักการระยะเวลาเข้า-ออก ของเงิน ต้องให้เหมาะสมพอดีกัน PPPM จึงต้องปรับโครงสร้างการเงินของหุ้นกู้ดังกล่าว

ทั้งนี้ PPPM ถือหุ้น  ACAP จำนวน  43.25 ล้านหุ้น สัดส่วน 13.67% , ถือหุ้น STAR จำนวน  31.75 ล้านหุ้น สัดส่วน 11.72%

อ่านประกอบ :

PPPM จ่ายหุ้นกู้แค่ 260 ล้าน ขอยืดหนี้ 319 ลบ. – เงินกู้แบงก์ 587 ลบ.