สกัดบล.ขายตราสารหนี้เสี่ยง แฉปีนี้ 5 บริษัท เบี้ยวเงิน 1,712 ลบ.

HoonSmart.com>>บริษัทหลักทรัพย์ทำมาหากินลำบาก โดนเตะสกัดขาในตลาดตราสารหนี้ พบ หุ้นกู้ผิดนัดชำระหนี้ เกิดจากบล.เป็นผู้จัดจำหน่าย ขายให้กับลูกค้ารายบุคคล รับกรรมไป OPGT ไม่มีเงินจ่ายคืนหุ้นกู้  บล.ซีมิโก้ ผู้แทน ถูกปรับ 7 แสนบาท  เพราะไม่รักษาน้ำมันปาล์มดิบที่เป็นหลักประกันหุ้นกู้ของ OPGT  ส่วน PPPM ขายโดย บล.เออีซี 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) เปิดเผยข้อมูลหุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่ปี 2559 ถึงเดือนพ.ค. 2562 มีมูลค่าทั้งสิ้น 19,500 ล้านบาท คิดเป็น 0.46% ของตราสารหนี้คงค้าง 4.1 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือนพ.ค. 2562

เฉพาะในปี 2562 มีบริษัทผิดนัดชำระหนี้ 5 ราย มูลค่ารวม 1,712 ล้านบาท ในเดือนม.ค.และก.พ. จำนวน 590 ล้านบาท เป็นของ บริษัท พี-มาร์ท ซุปเปอร์ สโตร์ (PMART) บริษัทโอพีจีเทค (OPGT)บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ (IFEC) วินด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (IWIND) ส่วนเดือนก.ค. เป็นหุ้นกู้ของ บริษัท พีพี ไพร์ม (PPPM) จำนวน 1,122 ล้านบาท ขายโดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เออีซี ทั้งนี้ PMART และ OPGT ผิดนัดชำระหนี้มาตั้งแต่ปี 2561 ต่อเนื่องถึงปีนี้

PMART เป็นผู้นำด้านการค้าส่งอาหารแช่แข็งรายใหญ่ เคยมอบหมายให้บริษัท เอเซียพลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) เข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2560

สำหรับ OPGT มีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีมิโก้ (ZMICO) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยสำนักงานก.ล.ต. รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2562 มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับ บล. ซีมิโก้ เป็นเงิน 709,000 บาท เนื่องจาก ระหว่างวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ถึงวันที่ 7 กันยายน 2561 บล. ซีมิโก้ ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ระยะสั้นมีประกันของบริษัท โอพีจีเทค ซึ่งออกเสนอขายเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ไม่ได้จัดให้มีผู้รักษาน้ำมันปาล์มดิบที่เป็นหลักประกันหุ้นกู้ของ OPGT และไม่มีวิธีการควบคุมและติดตามตรวจสอบหลักประกันดังกล่าวให้รอบคอบและรัดกุม ทำให้ผู้ถือหุ้นกู้ได้รับความเสียหาย ถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ด้วยความระมัดระวังและดูแลรักษาประโยชน์ของผู้ถือหุ้นกู้เยี่ยงผู้มีวิชาชีพจะพึงกระทำ

ส่วนหุ้นกู้ PPPM ที่ผิดนัดชำระหนี้ มูลค่า 1,122 ล้านบาท เสนอขายแบบเฉพาะเจาะจง (II) และนักลงทุนรายใหญ่ (HNW) ปัจจุบันหุ้นกู้เกือบทั้งหมด คือ 1,116 ล้านบาท ถือโดยนักลงทุนรายบุคคล มีนักลงทุนรายใหญ่ถือ 750 ล้านบาท และนิติบุคคลซื้อเพียง 6 ล้านบาท ผู้จัดจำหน่ายเป็นบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมด รุ่นที่ 1 จำนวน 261 ล้านบาท ขายผ่านบล.ยูโอบีเคย์เฮียน และบล.เออีซี ส่วนรุ่นที่ 2-4 ขายโดยบล.เออีซี และมีธนาคารไทยพาณิชย์เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และรุ่นที่ 5 มีบล.เออีซีและ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดจำหน่าย และมีบล.เคทีบีฯเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้

สำนักงาน ก.ล.ต. รายงานสถานการณ์ตราสารหนี้เสี่ยง คือ ไม่มีเรทติ้ง และหุ้นกู้ต่ำกว่าลงทุน อันดับเครดิตต่ำกว่า BBB มูลค่า 234,130 ล้านบาท ส่วนใหญ่ขายโดยบริษัทหลักทรัพย์ สัดส่วน 87% ที่เหลือเป็นธนาคารพาณิชย์ ส่วนผู้ออกกระจุกอยู่ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ถึง 146,609 ล้านบาท หรือ 63% ตราสารหนี้เสี่ยงถือโดย HNW 113,706 ล้านบาท ประมาณ 49% II จำนวน 36,968 ล้านบาท และรายย่อย 26,891 ล้านบาทหรือ 11%

อ่านประกอบ

ก.ล.ต.ยกระดับคุมตราสารหนี้ กำจัดจุดอ่อนก่อนเสียหาย