HoonSmart.com>>ปิดตายตลาดตราสารหนี้ PPPM ไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้าย ที่ฝีแตกจ่ายหนี้หุ้นกู้ถึงกำหนดชำระไม่ได้

จู่ ๆ บริษัท พีพีไพร์ม (PPPM) หรือ บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) เดิม ผู้ผลิตอาหารสัตว์และธุรกิจพลังงาน ก็ผิดนัดชำระหนี้และถอนหุ้นกู้ถึงกำหนดไม่ได้ จำนวน 2 ชุด เมื่อวันที่ 30 ก.ค. และ 2 ส.ค.2562 ที่ผ่านมา มูลหนี้รวม 580 ล้านบาท ยังไม่นับรวมหุ้นกู้ที่เหลืออีก 3 ชุด ที่ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอนอีก 2-3 ปีข้างหน้า
บริษัท PPPM ไม่ใช่บริษัทสุดท้าย ที่จะเจอปัญหานี้ นั่นหมายความว่า มีหุ้นกู้อีกหลายบริษัท ที่รอฝีแตกออกมา มีทั้งหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทนอกตลาด อีกนับไม่ถ้วน
ปัญหาที่เกิดกับหุ้นกู้ PPPM ไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริง นอกจากตัวบริษัท กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผู้กำกับดูแล ที่ออกมาตรการเข้มงวด ตอกฝาโลงตลาดเครดิตตราสารหนี้ โดยเฉพาะตั๋วบี/อี ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ถึงเวลาที่ฝีจะแตก เมื่อตราสารหนี้ครบกำหนดตั้งแต่ 2 ปีก่อน ซึ่งตราสารหนี้ส่วนใหญ่ มีกำหนดระยะเวลานาน 3-5 ปี
บ้างก็ว่า การผิดนัดชำระหนี้ของ PPPM เกิดจากผลกระทบของมาตรการก.ล.ต. ทำให้ตลาดหุ้นกู้ ปิดตายสนิท บริษัทออกหุ้นกู้ ถึงกำหนดไม่มีเงินมาจ่าย เพราะเทคนิค Default
เมื่อตลาดหุ้นกู้ และบี/อี ปิดตายสนิท นั่นหมายความว่า ผลกระทบโดมิโนที่ตามมา จึงไม่ใช่แค่ PPPM เท่านั้น บริษัทนอกตลาดจำนวนมาก บริษัทปั้นเข้าตลาดหุ้นในอนาคตของบริษัทหลักทรัพย์ ถูกชักชวนให้ออกหุ้นกู้ บี/อี ขายให้ลูกค้าโบรกเกอร์ มูลค่าหลายร้อยล้านบาท เป็นเหยื่อที่รอประทุออกมา
ถึงวันนี้ “รื่นวดี สุวรรณมงคล” เลขาธิการ สำนักงานก.ล.ต. ต้องออกมาคุมตราสารหนี้ ป้องกันความเสียหายอีกระลอก ก็เป็นการป้องกันที่ปลายเหตุ หลังเกิดการสูญเสียแล้ว แต่ก็ยังดี ตีกรอบไม่ให้เกิดการเสียหายรอบใหม่
ตลาดหลักทรัพย์ ปลดเครื่องหมาย SP หุ้นบริษัท พีพี ไพร์ม (PPPM) ตั้งแต่การซื้อขายช่วงบ่ายวันที่ 2 ส.ค.นี้ เนื่องจาก บริษัทชี้แจงผลกระทบฐานะการเงินและการดำเนินงานแล้ว
พล.อ.เชาวฤทธิ์ ประภาจิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ร่วม) ชี้แจงเพิ่มเติมว่า บริษัทได้ออกหุ้นกู้รวมทั้งหมด 5 ครั้ง ดังนี้
1) หุ้นกู้ลำดับที่ 1 จำนวน 260.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 นายทะเบียนหุ้นกู้ ได้ชำระหนี้ให้กับผู้ถือหุ้นกู้ไปบางส่วน เป็นเงินจำนวน ประมาณ 216.8 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะได้เข้าไปเจรจาชำระหนี้คืนให้กับธนาคารโดยเร่งด่วนต่อไป
สำหรับหุ้นกู้ส่วนที่เหลือ จำนวน 43.7 ล้านบาท จะชำระดอกเบี้ยและเงินต้น ให้ผู้ถือหุ้นกู้ทุกราย ภายในวันที่ 2 ส.ค.2562 ณ สำนักงานบริษัท ฟีนิกซ์ แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส โดยใช้เงินเพิ่มทุนบริษัท
2) หุ้นกู้ลำดับที่ 2 จำนวน 319.50 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน 2 ส.ค. 2562 บริษัทจะชำระต้นเงินและดอกเบี้ย ภายใน 5 วัน นับแต่วันครบกำหนดไถ่ถอน (วันที่ 7 สิงหาคม 2562) โดยใช้เงินจากการขายหลักทรัพย์เพื่อค้า, เงินทุนหมุนเวียนของกิจการและเงินจากการเพิ่มทุน
3) หุ้นกู้ลำดับที่ 3-5 ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน 541.60 ล้านบาท บริษัทฯ ไม่ได้ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ จึงไม่มีเหตุการณ์ผิดนัดชำระเงินเกิดขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งบริษัทจะจัดการบริหารเงิน เพื่อให้สามารชำระหนี้ได้ตามกำหนดระยะเวลาไถ่ถอนหุ้นกู้
บริษัทฯ จะไม่มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ และเมื่อชำระหนี้ไถ่ถอนหุ้นกู้แล้ว จะแจ้งตลาดเผยแพร่ข้อมูลต่อไป
ทั้งนี้ PPPM มีหนี้เงินกู้ระยะสั้นและยาว รวม 927 ล้านบาท เมื่อบริษัทไม่ได้ผิดนัดชำระหนี้ ภาระหนี้ดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยยังคงประกอบธุรกิจอาหารสัตว์ และธุรกิจพลังงานความร้อนใต้พิภพ ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งหมด 15 ยูนิต ได้ตามปกติ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ดำเนินการจำหน่ายออกไป
นักลงทุนตื่นขายหุ้น PPPM หลังปลด SP ราคาร่วงหวิดฟลอร์ มาร์เก็ตติ้งชี้ผลกระทบผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ไม่มั่นใจหวั่นหุ้นกู้ที่เหลือซ้ำรอย
ราคาหุ้น PPPM ปลด SP เปิดซื้อขายช่วงบ่าย ราคาไหลรูดทันที เปิดที่ 2.16 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 18.80 % แรงขายที่มีต่อเนื่อง ราคาลงหนักสุด 1.88 บาท ลดลง 0.78 บาท หรือ 29.32 % หวิดฟลอร์ 1.87 บาท และปิดตลาดที่ 1.97 บาท ลดลง 0.69 บาท หรือ 25.94 % มูลค่าซื้อขาย 76.14 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่การตลาด กล่าวว่า นักลงทุนขายหุ้น PPPM เกิดจากผลกระทบการผิดนัดหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด แม้ว่าบริษัทพยายามแก้ไขและเร่งเคลียร์หนี้ให้ผู้ถือหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุด แล้วก็ตาม แต่เชื่อว่านักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจหุ้นกู้ที่เหลืออีก 3 ชุด ซึ่งยังไม่ครบกำหนดชำระ จะเกิดปัญหาเช่นเดียวกับชุดที่ 2 หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะนายทะเบียนหุ้นกู้ PPPM ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า กรณีที่บริษัทชี้แจงว่าธนาคารได้ชำระหนี้ให้กับผู้ถือหุ้นกู้บางส่วน ประมาณ 216.8 ล้านบาท ไม่เป็นความจริง เป็นการตัดเงินของธนาคารจากระบบด้วยความผิดพลาด ไม่ใช่เป็นเงินฝากของบริษัทแต่อย่างใด
สถานการณ์นี้ธนาคารจะต้องไปไล่เบี้ยเอาเงินคืน ส่วน PPPM ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ชุดที่ 1 ซึ่งเป็นเงื่อนไขให้ผิดนัดชำระหนี้ทั้งหมด 5 ชุด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,122 ล้านบาท โชคร้ายเกิดขึ้นกับนักลงทุนรายบุคคล เพราะกอดหุ้นกู้ PPPM เกือบทั้งหมด….
อ่านประกอบ :
สกัดบล.ขายตราสารหนี้เสี่ยง แฉปีนี้ 5 บริษัท เบี้ยวเงิน 1,712 ลบ.
