HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นหลังเลือกตั้ง มีโอกาสปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ ดาวโจนส์ทรุด 460 จุด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปักหัวลง-เยอรมนีติดลบครั้งแรกในรอบเกือบ 6 ปี เพิ่มความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่าความหวังได้รัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ รวมถึงดัชนีวิ่งขึ้นมารับข่าวการเมืองมากแล้ว
ตลาดหุ้นวันแรก (25 มี.ค.2562) หลังการเลือกตั้งนักวิเคราะห์ให้น้ำหนักปัจจัยต่างประเทศมากขึ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทรุดมากกว่า 1% ผลตอบแทนของพันธบัตรรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี เกิดหักหัวลงต่ำสุดในรอบ 15 เดือน และนักลงทุนย้ายเงินเข้าตลาดพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนี 10 ปี ผลตอบแทนติดลบ 0.001% ครั้งแรกรอบเกือบ 6 ปี จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่มีมากขึ้น
บรรยากาศการเมืองในปีนี้ ไม่เหมือนการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา สถิติตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นรับรัฐบาลใหม่ในสัปดาห์แรกยังความไม่แน่นอน เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดให้พรรคชนะการเลือกตั้งที่ 1 ตั้งรัฐบาลก่อน นอกจากนี้นักลงทุนสถาบันไทยและต่างประเทศเข้ามาไล่ซื้อหุ้นขนาดใหญ่เก็งกำไรการเมืองไปก่อนหน้านี้แล้ว
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส คาดตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้(25-29 มี.ค.) น่าจะได้ผลจิตวิทยาเชิงบวกหนุนจากการเลือกตั้งต่อเนื่อง คาดดัชนีน่าจะปรับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1640 จุดได้ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำคงน้ำหนักหุ้นไทยไว้ที่ 40% ของพอร์ตรวมตามเดิม
สำหรับดัชนีหุ้นบวก 1.27 % ปิดที่ 1,646 จุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บล.กสิกรไทยคาดมีแนวรับที่ 1,640 จุด และ 1,625 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,660 และ 1,675 จุดตามลำดับ ปัขัยสำคัฐที่ต้องติดตาม ได้แก่ผลการเลือกตั้ง ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูงและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ เช่น การค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค. รวมถึงจีดีพีไตรมาส 4/2561
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ยังคงตั้งเป้าดัชนีปีนี้ที่ 2,000 จุด เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองที่สงบเรียบร้อยหลังการเลือกตั้งน่าจะช่วยให้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยคึกคักมากขึ้น ส่วนหุ้น Top pick ได้แก่ BBL,KBANK,TOP, SCC, CPALL, ROBINS, AOT, CENTEL , LH และ WHA
BBL จะได้ประโยชน์จากความต้องการสินเชื่อธุรกิจที่แข็งแกร่งในปีนี้ นำโดยการลงทุนภาคเอกชน และการลงทุนโดยตรง
ส่วน CPALL น่าจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่น่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง นอกจากนี้บริการค้าปลีกรูปแบบใหม่จะช่วยให้บริษัทมีรายได้เติบโตและมีการประหยัดต่อขนาดเพิ่มขึ้น
AOT จะเป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์หลักจากการฟื้นตัวของสถิตินักท่องเที่ยวไทย และการประมูลสัญญาสัมปทานสองฉบับในช่วงต้นปีนี้