ในยุคที่ผู้คนหันมาสนใจสิ่งแวดล้อม GULF เองก็ถือเป็นบริษัทที่ดำเนินกิจกรรม CSR พร้อมเอาใส่ใจกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนกันมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้วิสัยทัศน์ของ”สารัชถ์ รัตนาวะดี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท GULF หรือ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำธุรกิจพลังงานของประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญในจุดนี้มาโดยตลอด โดยทาง GULF เองก็เล็งเห็นความสำคัญในการสนับสนุนกิจกรรม CSR ในหลาย ๆ ด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านสิ่งแวดล้อม หรือการสนับสนุนเยาวชนให้หันมาเล่นกีฬามากขึ้น
ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ภายใต้วิสัยทัศน์ของ สารัชถ์ รัตนาวะดีนั้น ทาง GULF เอง ก็ได้เปิด โรงไฟฟ้าอุทัย ที่ตั้งอยู่ ณ จ. พระนครศรีอยุธยา ให้คณะผู้ถือหุ้นจำนวนทั้งหมด 70 คน เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบแนวทางการดำเนินกิจการของบริษัท และเป็นไปตามนโยบายการเปิดเผยข้อมูลและการดำเนินกิจการอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้ เป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติทีมี กำลังการผลิต 1,600 เมกะวัตต์
นอกจากนี้กัลฟ์ยังได้พาคณะผู้ถือหุ้นร่วมทำกิจกรรม CSR ภายใต้แนวคิดส่งเสริมการนำวัสดุเหลือใช้หรือ Zero Waste ผ่านการเรียนรู้วิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์อัดก้อนจากตะกอนดินที่ได้จากกระบวนการผลิตไฟฟ้า เพื่อเป็นการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นนโยบายที่กลุ่มบริษัทกัลฟ์ได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ทางกัลฟ์เองยังได้ริเริ่มโครงการ “ปลูกข้าวลงนา ปลูกหญ้า(แฝก) ป้องดิน” เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ณ ศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่และแปลงนาสาธิตโรงไฟฟ้าหนองแซง จ. สระบุรี ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมร่วมกับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงโรงไฟฟ้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคการเกษตรในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าหนองแซงของกลุ่มบริษัทกัลฟ์ ด้วยการใช้แนวคิดเกษตรแบบกึ่งอินทรีย์ผสมผสาน มาถ่ายทอดสู่ชาวบ้านในชุมชนโรงไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุนการผลิต และพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่เกษตรกร พร้อมทั้งสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค
เริ่มจากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าด้วยการแนะนำชาวบ้านให้ปลูกข้าวสายพันธุ์ดี เป็นที่ต้องการของตลาด โดยใช้ข้าวสายพันธุ์ใหม่อย่างข้าวทับทิมชุมแพ ซึ่งเกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ระหว่างข้าวสังข์หยด จังหวัดพัทลุง กับข้าวหอมมะลิ 105 และยังมีการปลูกหญ้าแฝกบริเวณคูคลองสาธารณะ เลียบถนนทุเรียน ห้วยบ่า เพื่อป้องกันการพังทลายของดิน พร้อมทั้งปรับปรุงและพัฒนาภูมิทัศน์ บริเวณคูคลองในพื้นที่ให้สวยงาม รวมทั้งมีการปล่อยพันธุ์ปลาลงสู่คูคลองสาธารณะ เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ในพื้นที่ชุมชนรวมถึงเพิ่มคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น
ศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ และแปลงนาสาธิต โรงไฟฟ้าหนองแซง นั้นปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 42 ไร่ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2558 โดยตลอดระยะเวลาที่ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่และแปลงนาสาธิต โรงไฟฟ้าหนองแซงนั้นได้มีการปรับใช้พื้นที่เพื่อทดลองทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ และนำผลจากการทดลองมาสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่เกษตรกรระแวกใกล้เคียง โดยมีรายละเอียดดังนี้
พ.ศ 2558 เริ่มบุกเบิกพัฒนาพื้นที่ เพื่อเริ่มทำการเกษตรแบบผสมผสาน ตามหลัก “เกษตรทฤษฎีใหม่”
พ.ศ. 2559 ขยายพื้นที่ไปยังส่วนของที่ดินโรงไฟฟ้า พร้อมปรับเปลี่ยนเป็นแปลงนาสาธิต โดยมีคันนาขนาดใหญ่เพื่อป้องกันน้ำท่วม และใช้ที่ดินบนคันนาในการปลูกพืชผัก และไม้ยืนต้น
พ.ศ 2560 ปลูกต้นไม้หลายชนิดเพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ ทั้งไม้เศรษฐกิจยืนต้น และไม้ผลผสมผสาน เพื่อให้ชุมชนเข้ามาเยี่ยมชมและเรียนรู้พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจในการทำอาชีพให้แก่ชุมชน
พ.ศ 2561 ต่อยอดกิจกรรมต่าง ๆ ในศูนย์การเรียนรู้ฯ เช่น เลี้ยงไส้เดือนเพื่อใช้เป็นปุ๋ยมูลไส้เดือน ทำโรงปุ๋ยอินทรีย์ ทำปุ๋ยหมักจากวัชพืชจากแหล่งน้ำของชุมชนและวัสดุเหลือใช้จากเรือกสวน ไร่นา ทำน้ำหมักชีวภาพจากหน่อกล้วยแทนการใช้สารเคมี เพื่อการปูทางไปสู่การทำเกษตรอินทรีย์เต็มรูปแบบ
ด้านสิ่งแวดล้อม
เพื่อเป็นการสนับสนุนพลังงานสะอาด กัลฟ์ ได้บริจาคแผงโซล่าร์เซลล์ สำหรับใช้ในระบบผลิตกระแสไฟฟ้าและระบบสูบน้ำของโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดหลักของโครงการ ที่ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาเผยแพร่ผ่านศูนย์กลางการเรียนรู้ให้แก่ผู้สนใจได้ศึกษาและนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ด้านการกีฬา
“สารัชถ์ รัตนาวะดี” เป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนวงการกีฬามาโดยตลอด โดยมีนโยบายให้กัลฟ์ ก้าวสู่องค์กรที่สนับสนุนวงการกีฬาอย่างแท้จริง กัลฟ์นั้นถือเป็นอีกหน่วยงานที่สนับสนุนเยาวชนที่รักกีฬาฟุตบอลให้มีโอกาสพัฒนาทักษะ และเป็นประตูสู่วงการฟุตบอลระดับโลก โดยการสร้างความร่วมมือกับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดร่วมกันเปิดโครงการฟุตบอลคลินิค “Gulf Football Clinic by Buriram United” เพื่อแจกจ่ายความรู้ และฝึกสอนทักษะฟุตบอลให้กับเด็ก ๆ โดยนักฟุตบอลมืออาชีพ และเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา “Gulf Football Clinic by Buriram United” ก็ได้จัดกิจกรรมขึ้นโดยมีเยาวชนในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมมากกว่า 200 คน ณ สนามฟุตบอลสปอร์ตอารีนา ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
และกัลฟ์เองยังได้ร่วมมือกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กในโครงการ “Gulf Football Camp : ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน” โดยมีภารกิจส่งเสริม 2 ด้านคือ
1. ส่งเสริม และพัฒนาสนามฟุตบอลเก่าในชุมชนต่าง ๆ โดยคัดเลือกสนามฟุตบอลที่มีผู้เสนอเข้ามาพร้อมเหตุผลที่น่าสนใจ มาปรับปรุงให้มีมาตฐาน และคุณภาพ
2. การจัดกิจกรรม Trial Tournament โดยให้เยาวชนอายุ 10-14 ปี ที่มีความสามารถโดดเด่นในกีฬาฟุตบอลเข้าเป็นสมาชิกของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี เพื่อเรียนรู้เทคนิคและพัฒนาความสามารถด้านกีฬาฟุตบอลให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น และยังได้เดินทางไปเยือนสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ประเทศเยอรมนี อีกด้วย
และในแง่ของการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล ความเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และความมุ่งมั่นพัฒนาเยาวชนไทย ทั้งหมดนี้อาจสรุปได้ว่านโยบายเพื่อสังคมภายใต้วิสัยทัศน์ของสารัชถ์ รัตนาวะดี สามารถนำพาให้กัลฟ์ ก้าวสู่องค์กรเพื่อสังคมได้อย่างแท้จริง