อมตะฯตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ที่ 1,020 ไร่ มากกว่าปีก่อน 10% รับผลดีจากโครงการ EEC ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน คาดรายได้ปีนี้เติบโตกว่าปีก่อน จาก Backlog ที่มีกว่า 3 พันล้านบาท จะรับรู้ปีนี้ประมาณ 60-70%
แหล่งข่าวจากบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายที่ดิน 1,020 ไร่ แบ่งเป็นในไทย 880 ไร่ และที่เวียดนาม 140 ไร่ โดยรวมปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนประมาณ 10% ซึ่งอยู่ที่ 925 ไร่ แบ่งเป็นในไทย 800 ไร่ และที่เวียดนาม 125 ไร่ ซึ่งทำได้ตามเป้าหมาย ปีนี้บริษัทจะได้รับผลดีจากโครงการพัฒนาระเบียงพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น และนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นจากปัญหาสงครามการค้า
ส่วนรายได้ในปีนี้ก็จะดีกว่าปีก่อน เนื่องจากจะรับรู้ยอดขายรอโอน (Backlog)ที่มีอยู่ 3,100-3,500 ล้านบาท ประมาณ 60-70% และรับรู้รายได้จากธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้าที่ร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งหมด 10 โรง มีกำลังการผลิตรวม 1,400 เมกะวัตต์ (MW) ตามสัดส่วนการถือหุ้น จำนวน 260 MW จะมีการรับรู้เต็มปี รวมถึงรายได้จากการจำหน่ายน้ำในนิคมอุตสาหกรรม และค่าเช่าที่ดินทำให้รายได้ประจำเพิ่มขึ้น คาดว่าจะมีสัดส่วน 50% เท่ากับรายได้จากการขายที่ดิน บริษัทคาดหวังว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้าสัดส่วนรายได้ประจำจะขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 70-80% ซึ่งจะทำให้ฐานะการเงินมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับแผนการขยายธุรกิจนิคมฯไปยังประเทศเมียนมา และลาวในปีนี้จะมีความชัดเจนว่า จะลงทุนที่ไหน กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นอุตสาหกรรมใด ซึ่งจะต้องพิจารณาจากกฎหมายของทั้งสองประเทศสนับสนุนอุตสาหกรรมใด ปัจจุบันบริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยเรียบร้อยแล้ว สาเหตุที่สนใจเข้าไปลงทุนใน 2 ประเทศ เพราะมองว่าเศรษฐกิจมีการเติบโตที่ดี และมีความพร้อมด้านทรัพยากรธรรมชาติ ในอนาคตจะสามารถสร้างรายได้ที่ดีเช่นเดียวกับบริษัท อมตะ วีเอ็น (AMATAV)ในเวียดนาม
ปัจจุบัน AMATAV ที่ทำนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่งในเวียดนาม ได้แก่โครงการอมตะ ซิตี้ เบียนหัว โครงการอมตะ ซิตี้ ลองถั่น จังหวัดดองไน และโครงการอมตะ ซิตี้ ฮาลอง ตั้งอยู่ที่จังหวัดกว่างนิงห์ ในปีก่อนทำรายได้ให้กับ AMATA สัดส่วน 20-25% ของรายได้รวม ส่วนในปีนี้ต้องรอดูยอดโอนที่ดินในเวียดนามก่อน จึงยังไม่สามารถประเมินได้
ทั้งนี้โครงการอมตะชิตี้ เบียนหัว อยู่บนพื้นที่ 4,375 ไร่ ขณะนี้มีนักลงทุนประกอบกิจการเกือบเต็มพื้นที่ ส่วนโครงการอมตะชิตี้ ลองถั่น บนพื้นที่ ประมาณ 8,000 ไร่ แบ่งเป็นโครงการนิคมอุตสาหกรรม 33% และโครงการพัฒนาเมืองชุมชน 67% ส่วนโครงการอมตะซิตี้ ฮาลอง มีพื้นที่รวม 4,500 ไร่ มีทั้งหมด 5 เฟส โดยเฟสแรก 770 ไร่เพิ่งเริ่มเข้าไปพัฒนา
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย)คาดว่ากำไรปกติ AMATA ในปี 2562 ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จะรับรู้ COD โรงไฟฟ้าบีกริมระยอง 3, 4 และ 5 เต็มปี ทำให้ส่วนแบ่งกำไรเติบโต 16% และเชื่อว่ารัฐบาลใหม่ จะยังให้ความสำคัญกับโครงการ EEC ต่อเนื่อง แต่หาก พัฒนาล่าช้า กลุ่มนิคมฯยังโดดเด่นจากการรับรู้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและกฏหมายจากพรบ. EEC เต็มปีเทียบกับปี 2561 ที่ได้ประโยชน์ในครึ่งปีหลัง
ส่วนกำไรปกติไตรมาส 4/2561 คาดอยู่ที่ 374 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% ยอดโอนที่ดินที่สูงขึ้น เพราะฐานที่ต่ำ และคาดรับรู้รายได้จากยอดขายรอโอนประมาณ 500 ล้านบาท จากสิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท แนะนำซื้อ ให้ราคาเหมาะสมที่ 25 บาท
บล.เอเชีย เวลท์ มองว่า AMATA รับผลดีจากนโยบาย EEC และความเชื่อมั่นของประเทศ จากความชัดเจนการเลือกตั้ง ขณะที่สงครามการค้า ช่วยหนุนผู้ประกอบการในจีน เริ่มย้ายฐานการผลิตมายังประเทศในแถบอาเซียนมากขึ้น รวมทั้งไทย และบริษัทมีแผนปรับราคาขายที่ดินในพื้นที่นิคมฯ อมตะ ซิตี้ ชลบุรีขึ้นเป็น 10 ล้านบาทต่อไร่ จากปีที่ผ่านมาที่ 8.5 ล้านบาทต่อไร่
ส่วน AMATAV ในปี 2562 ตั้งเป้ายอดขายที่ดินโต 10% จากความต้องการที่ดินเพิ่มขึ้น และนิคมฯ อมตะ ซิตี้ ลองถั่นจะเริ่มเปิดขายได้ในกลางปี 2562 เป็นต้นไป แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 26 บาท