บล.เคทีบี มองหุ้นไทยโค้งสุดท้ายปี 61 ยังผันผวน การชะลอตัวของเศรษฐกิจจากสงครามการค้า กดดันให้นักลงทุนโยกเงินเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย และกลยุทธ์ลงทุน เน้นหุ้นที่ผลดำเนินงานผันผวนน้อย พร้อมรอจังหวะซื้อเมื่อตลาดดีดตัวกลับ คาด SET Index ไม่น่าหลุดระดับ 1,560 จุด
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST มองตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธ.ค. ( 24-28 ธ.ค.) ว่า ด้วยทิศทางของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ในขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น ทั้ง 2 ปัจจัยนี้จึงกดดันการลงทุนในช่วงเดือน ธ.ค. ค่อนข้างมาก ทำให้ตลาดหุ้นเกิดใหม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นนี้ โดยธนาคารกลางสำคัญๆ รวมถึงของไทยมีการปรับลดประมาณการการเติบโตทาง GDP ลง ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจโลกปีหน้ามีแนวโน้มเติบโตลดลง โดยตัวแปรสำคัญที่จะมีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจคือ การเจรจาการค้าสหรัฐฯกับจีนที่จะกลับมาเจรจากันในเดือนม.ค. 2562 ส่งผลให้ในระยะนี้มีเงินไหลออกจากตลาดสินทรัพย์เสี่ยงสูงเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตร และทองคำ
ขณะที่ปัจจัยด้านราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวลงมาแตะระดับ 55 เหรียญฯ เป็นผลมาจากกำลังการผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่ม OPCE โดยเฉพาะสหรัฐฯ ทำให้ปริมาณน้ำมันดิบเกิดภาวะล้นตลาด ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน , ปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน
ส่วนปัจจัยในประเทศ รายงานตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย. ติดลบ -0.95% จากผลกระทบของสงครามการค้าที่ส่งผลให้ตัวเลขส่งออกสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมออกมาติดลบ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มยานพาหนะและอุปกรณ์ -5.6% , กลุ่มอีเล็คทรอนิคส์ -9.5% ซึ่งมีผลทำให้ตัวเลขการส่งออกไปจีนนั้นติดลบถึง -8.9% และคาดว่าจะยังส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออกต่อไป
ขณะเดียวกันปัจจัยด้านการเมืองนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการเปิดตัวของนักการเมืองที่สังกัดพรรคการต่างๆ และประเมินว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งหากมีความชัดเจนว่าพรรคการเมืองหรือกลุ่มพรรคการเมืองที่สนับสนุนรัฐบาลชุดปัจจุบันจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงที่มากพอ ก็จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นและทำให้นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นได้
กลยุทธ์ลงทุนที่ KTBST แนะนำในสัปดาห์นี้ ด้วยสภาวะตลาดที่คาดว่าจะเงียบเหงาและผันผวนในบางวัน แต่นักลงทุนอาจถือหุ้นต่อไปหากไม่มีปัจจัยลบหรือข่าวลบเข้ามากดดัน โดย KTBST ประเมินว่า SET Index ยังไม่น่าจะหลุดระดับ 1,560 จุด แต่อย่างไรก็ตามหากมองหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นควรรอให้ทิศทางตลาดเริ่มเห็นการดีดตัวกลับ ซึ่งกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ คือ กลุ่มที่ผลการดำเนินงานมีความผันผวนน้อย ได้แก่ โรงไฟฟ้า , ค้าปลีก , โรงพยาบาล , กลุ่มการเงิน ส่วนกลุ่มที่อิงกับการท่องเที่ยวนั้นราคาหุ้นปรับตัวลงมาจนดูน่าสนใจ
ทั้งนี้ KTBST มองดัชนีในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,560-1,620 จุด โดยหุ้นที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย KBANK, GPSC, BDMS, CPALL, MTC, AOT, ERW และ THANI