HoonSmart.com>>บอร์ด “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” (MAJOR) เคาะซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน วงเงินไม่เกิน 600 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 75.70 ล้านหุ้น หรือ 9.99% เริ่ม 17 พ.ย.68-15 พ.ค.69 พร้อมโชว์กำไร Q3/68 ที่ 126 ล้านบาท พุ่ง 151%
บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ (MAJOR) เปิดเผยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทฯ เพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 600 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 75.70 ล้านหุ้น ซึ่งจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็น 9.99% ซึ่งไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยเริ่มซื้อหุ้นคืนในวันที่ 17 พ.ย.2568- 15 พ.ค.2569
ด้านหุ้น MAJOR ปิดตลาด 12 พ.ย.2568 ที่ 6.40 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 22.04 ล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 126.32 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.17 บาท เพิ่มขึ้น 151% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 50.33 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.06 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2568 กำไรสุทธิ 284.02 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.37 บาท ลดลง 2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 422.87 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.51 บาท
บริษัทฯ ชี้แจงผลการดำเนินงานโดยรวมในไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 1,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 306 ล้านบาท หรือ 18% จากความสำเร็จของภาพยนตร์ต่างประเทศที่ได้รับความนิยมสูง เช่น Demon Slayer และ Jurassic World ทั้งนี้ เกิดจากจำนวนผู้ชมเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาบัตรชมภาพยนตร์เฉลี่ยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม(Concession) เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการปรับโครงสร้างราคาขาย และการบริหารต้นทุนวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้รายได้ธุรกิจโรงภาพยนตร์
สำหรับงวด 9เดือนแรกของปี 2568 รายได้รวมอยู่ที่ 5,324 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 2% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากจำนวนภาพยนตร์เข้าฉายในช่วงต้นปีที่ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2567ซึ่งมีฐานรายได้สูงจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่อง รวมทั้งในปีที่ผ่านมามีรายการพิเศษจากผลกระทบภาษีเงินได้รอตัดบัญชีของบริษัทย่อย บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (MPIC) ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 11 ล้านบาท หรือ 4% จากปีก่อน สะท้อนถึงผลการดำเนินงานหลักที่มั่นคงและการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ

