HoonSmart.com >>ดาวโจนส์ปิดบวก 299 จุด PCE ออกมาตามคาด ลดความกังวลนโยบายการเงิน ตลาดยังคงให้น้ำหนักการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ๆ ละ 0.25% ในการประชุมครั้งต่อไปของเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 26 ก.ย. 2568 รวมทั้งดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ฟื้นตัว จากที่ร่วงลง 3 วันติดต่อกัน มาปิดในแดนบวก เนื่องจาก นักลงทุนคลายกังวลเล็ กน้อยกับรายงานอัตราเงินเฟ้อที่ ออกมาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ประเมินข้อมูลใหม่ที่บ่ งชี้ถึงความเชื่อมั่นผู้บริ โภคที่ตกต่ำ และมาตรการขึ้นภาษีรอบใหม่ ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่สร้ างความกดดัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 46,247.29 จุด เพิ่มขึ้น 299.97 จุด, +0.65%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,643.70 จุด เพิ่มขึ้น 38.98 จุด, +0.59%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,484.07 จุด เพิ่มขึ้น 99.37 จุด, +0.44%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.2% ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.3% และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.7%
กระทรวงพาณิชย์รายงาน ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริ โภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานเดื อนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ คาดเช่นกัน
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนั กวิเคราะห์ และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐาน เพิ่มขึ้น 0.2% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนั กวิเคราะห์
หลังการเปิดเผยข้อมูล ตลาดยังคงให้น้ำหนักการปรับลดอั ตราดอกเบี้ยสองครั้งในครั้งละ 0.25% ในการประชุมครั้งต่อไปของเฟด ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME
เดวิด รัสเซลล์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตลาดทั่ วโลกของ TradeStation กล่าวว่า หลังจากตลาดโดยรวมปรับตัวลดลงติ ดต่อกันสามวัน ข้อมูลถือว่าดีพอที่จะดึงนั กลงทุนกลับเข้าตลาด จากที่ชะลอหลังการรายงานข้อมู ลยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้ งแรกและ GDP ที่ปรับสูงขึ้นเมื่อวานนี้ ได้ ลดความความคาดหวังต่อการผ่ อนคลายนโยบายการเงิน แต่ PCE ในวันนี้ช่วยคลายความกังวลนั้ นได้
อย่างไรก็ ตามนักลงทุนต่างประเมิ นผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริ โภคในเดือนกันยายนของมหาวิทยาลั ยมิชิแกน ซึ่งพบว่าชาวอเมริกันมีมุ มมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากกว่าที่คาดไว้
โดยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ ายลดลงมาที่ 55.1 จาก 58.2 ในเดือนสิงหาคมและต่ำกว่า 55.4 ที่นักวิเคราะห์คาด ผู้บริโภคยังคาดการณ์ว่าเงินเฟ้ อในช่วง 5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น 3.7% สูงกว่า3.5% ตัวเลขคาดการณ์ในเดือนสิงหาคม และคาดการณ์ว่าในช่วง 1 ปีข้างหน้า เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 4.7% ต่ำกว่า 4.8% ที่คาดการณ์ในเดือนสิงหาคม
นักลงทุนยังประเมินปัจจัยลบใหม่ จากมาตรการภาษีของประธานาธิบดี โดนัลด์ทรัมป์ซึ่งโพสต์โซเชี ยลมีเดียเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ผ่ านมา ว่าจะจัดเก็บภาษีนำเข้ายาที่ มีตราสินค้า 100% จากบริษัทยาที่ยังไม่ได้สร้ างโรงงานผลิตในสหรัฐฯ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียด นอกจากนี้การนำเข้ารถบรรทุ กขนาดใหญ่และเฟอร์นิเจอร์ บางประเภทก็เผชิญกับภาษีนำเข้ าที่สูงขึ้นเช่นกัน โดยภาษีใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 1 ตุลาคม
หุ้นบริษัทยาปรับตัวขึ้น โดยหุ้น Eli Lilly เพิ่มขึ้น 1.4% หุ้น Merck & Co. หุ้น Johnson & Johnson เพิ่มขึ้น 1% และหุ้น Pfizer เพิ่มขึ้น 0.5%
Paccar หุ้นผู้ผลิตรถบรรทุก พุ่งขึ้น 5.2%
ประเด็นทางการค้าครั้งนี้เพิ่ มความไม่แน่นอนและสร้างแรงกดดั นให้กับตลาดที่กำลังเผชิญกั บความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยื นของการเติบโตของ AI และความเสี่ยงสูงที่รัฐบาลสหรั ฐฯ จะปิดทำการ
Oracle บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ ลดลง 2.70% และร่วงลงมากกว่า 8% ในสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกฟื้นตั วจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่ มการเงินและอุตสาหกรรมที่ปรับตั วสูงขึ้น
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 554.52 จุด เพิ่มขึ้น 4.3 จุด, +0.78%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,284.83 จุด เพิ่มขึ้น 70.85 จุด, +0.77%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,870.68 จุด เพิ่มขึ้น 75.26 จุด, +0.97%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,739.47 จุด เพิ่มขึ้น 204.64 จุด, +0.87%
ตลาดหุ้นสเปนปรับขึ้นดีกว่ าตลาดภูมิภาคอื่นๆ โดยเพิ่มขึ้น 1.3% ปิดที่ระดับสูงสุดใน
รอบกว่าหนึ่งสัปดาห์
หุ้น Munich Re ของเยอรมนี และ SCOR ของฝรั่งเศส นำหุ้นบริษัทประกันภัยในยุโรป
ปรับขึ้น 2.1% หลังจากร่วงลงติดต่อกันสามวัน
หุ้นกลุ่มก่อสร้างและวัสดุเพิ่ มขึ้น 1.1% โดยหุ้น Kingspan ของไอร์แลนด์ที่เพิ่มขึ้น 1.2%
หลังจากที่ซิตี้กรุ๊ปปรับเพิ่ มเป้าหมายราคา
หุ้นผู้ผลิตเหล็กปรับตัวสูงขึ้ นเช่นกัน หลังจากหนังสือพิมพ์ธุรกิจ Handelsblatt ของเยอรมนีรายงานว่าคณะกรรมาธิ การยุโรปวางแผนที่จะจัดเก็บภาษี นำเข้าเหล็กและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ ยวข้องจากจีนในอัตรา 25% ถึง 50%
หุ้น ArcelorMittal ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่อันดั บสองของโลก เพิ่มขึ้น 2.6% ขณะที่
Aperam เพิ่มขึ้น 2.2% หุ้น Thyssenkrupp ของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 3.5% และ หุ้น Salzgitter เพิ่มขึ้น 5.2%
หุ้นบริษัทเฮลท์แคร์พลิกกลั บจากการลดลงก่อนหน้านี้มาปิ ดตลาดทรงตัว หลังจาก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีศุ ลกากรรอบใหม่ ซึ่งรวมถึงภาษีนำเข้ายาที่มี ตราสินค้า 100%
ทรัมป์ยังประกาศเก็บภาษีรถบรรทุ กหนัก 25% ส่งผลให้ราคาหุ้นของ Daimler Truck และ
Traton ลดลงมากกว่า 2%
ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่สอดคล้องกับคาดการณ์ ช่วยคลายความกังวลที่ว่าแรงกดดั นด้านราคาที่หนืดอาจทำให้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ เลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ ยออกไป ข้อมูลของ LSEG ระบุว่า ขณะนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการปรั บลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 0.39%ภายในเดือนธันวาคม ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากการคาดการณ์ ก่อนหน้านี้ที่มากกว่า 0.40%
หุ้นกลุ่ม InterContinental Hotels Group ของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 4% หลังจากที่
JPMorgan ปรับคำแนะนำการลงทุนเป็น overweight จาก underweight สองเท่า
กลุ่มแฟชั่น Brunello Cucinelli ของอิตาลียังคงลดลงต่อเนื่องอีก 1.7% เป็นผลจากรายงาน
ของ Morpheus Research ซึ่งเป็นบริษัทขายชอร์ตเซลล์
หุ้น Lufthansa เพิ่มขึ้น 1.6% หลังจากรายงานของรอยเตอร์ระบุว่ าสายการบินคาดว่าจะ
ประกาศปลดพนักงานหลายพันคนในวั นจันทร์
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 65.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 1.02% ปิดที่ 70.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
