บอร์ด เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ ไฟเขียวบริษัทย่อยขายหุ้น MPG ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวภาพ กำลังผลิต 4 เมกะวัตต์ มูลค่า 102 ล้านบาท ให้กลุ่มสมอทอง พร้อมอนุมัติเข้าซื้อหุ้น “เอ็ม โซลูชั่น” ธุรกิจไอซีทีครบวงจร มูลค่า 25 ล้านบาท จาก UPA
บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2561 มีมติอนุมัติให้บริษัท เฟอร์รั่ม เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้น 100% ขายหุ้นสามัญบริษัท มิตรประสงค์ กรีนเพาเวอร์ จำกัด (MPG) ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวภาพกำลังการผลิต 4.0 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 438,421 หุ้น หรือสัดส่วน 62.63% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ให้แก่บริษัท กลุ่มสมอทอง ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตน้ำมันปาล์มและเป็นผู้ถือหุ้น MPG ในสัดส่วน 20% โดยขายในราคาหุ้นละ 232.65 บาท คิดเป็นมูลค่า 102 ล้านบาซึ่งบริษัทจะได้รับเงินสดเป็นมูลค่า 60 ล้านบาท
ส่วนที่เหลือจำนวน 42 ล้านบาทนั้น บริษัท กลุ่มสมอทอง จะออกหุ้นใหม่เพื่อเสนอขายให้แก่บริษัท เฟอร์รั่ม เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จำนวน 84,000 หุ้น คิดเป็น 1.22% โดยจะไม่มีการส่งบุคคลเข้าไปเป็นคณะกรรมการในกลุ่มสมอทอง เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย
สาเหตุในการขายหุ้น เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นว่ารายได้จากการขายดังกล่าวสามารถนำมาบริหารธุรกิจต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยการสูญเสียรายได้จากการประกอบการของ MPG ไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ อย่างเป็นนัยสำคัญ ประกอบกับแผนลงทุนธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ ที่จะช่วยชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป รวมทั้งบริษัท กลุ่มสมอทอง หรือผู้ซื้อมีความสามารถและชำนาญเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจดังกล่าว ซึ่งจะช่วย secure ในส่วนของรายได้ที่ดีขึ้น เมื่อรวมกับรายได้ที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุนโครงการต่อๆ ไป ของบริษัทจะส่งผลให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
คณะกรรมการบริษัทฯ ยังอนุมัติให้บริษัทย่อย คือ บริษัท เอ็ม โซลูชั่น จำกัด (M-Solution) เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท อินฟอร์เมติกซ์ พลัส จำกัด (Informatix Plus) ในสัดส่วน 99.99% ประกอบธุรกิจไอซีทีครบวงจร โดยเป็นผู้ให้บริการระบบ Platform ระบบสื่อสารโทรคมนาคม รวมทั้งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ด้าน Mobile Technology โดยเป็นการซื้อจากบริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) มีมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 25 ล้านบาท โดยเงินลงทุนจะมาจากการขายโรงไฟฟ้ามิตรประสงค์
Informatix Plus ให้บริการตั้งแต่เป็นผู้ให้คำปรึกษา วิเคราะห์ ออกแบบ การวางระบบเครือข่ายสื่อสารและระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลทุกประเภท และเป็นผู้ติดตั้งระบบสำหรับงานบางประเภท อาทิ Mobile Application, Pro LPR และระบบ biometrics
สำหรับการเข้าลงทุนครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมีความประสงค์ที่จะเข้าลงทุนในธุรกิจที่มีรายได้ต่อเนื่อง และเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจและความร่วมมือทางธุรกิจ (synergy) กับบริษัทลูกของบริษัท คือ M-Solution ในแง่ของการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ การขยายฐานลูกค้า โดยปัจจุบันลูกค้าของบริษัทลูก M-Solution จะเน้นโครงการภาครัฐเป็นหลัก แต่บริษัท Informatix มีทั้งลูกค้าภาครัฐและมีทิศทางเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นเอกชนและ niche เพิ่มมากขึ้น ช่วยเป็นหลักประกันในส่วนของรายได้ที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ภายหลังการเข้าซื้อกิจการแล้ว Informatix จะมีรายได้จากลูกหนี้ที่มีการวางบิลแล้วซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นโครงการภาครัฐทำให้มีความแน่นอนในการเรียกเก็บเงิน รวมถึงรายได้จากโครงการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 62 ซึ่งจะช่วยชดเชยรายได้จากการขายโรงไฟฟ้ามิตรประสงค์
ด้านบริษัท ยูไนเต็ด พาวเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ขายหุ้นบริษัท อินฟอร์เมติกซ์ ทั้งหมด 99.99% ให้ 7UP เนื่องจากธุรกิจของอินฟอร์เมติกซ์มีผลประกอบการขาดทุนอย่างต่อเนื่องและมีโอกาสในการฟื้นตัวที่ค่อนข้างต่ำ การขายหุ้นออกจะช่วยลดภาระจากการรับรผู้ผลขาดทุน ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและบริการให้แก่บริษัท และลดภาระในการที่บริษัทต้องให้การสนับสนุนทางการเงินด้วย
นอกจากนี้การขายหุ้นจะช่วยให้บริษัทฯ มีแหล่งเงินทุนเพิ่มขึ้นสำหรับใช้เป้นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจของบริษัทและหรือเป็นแหล่งเงินทุนให้บริษัทสามารถใช้ลงทุนในโครงการอื่นๆ ของบริษัทฯ