“คิงส์ฟอร์ด” คาดดัชนีทรงตัวรอผลเจรจาภาษีสหรัฐฯ แนะ TOP-ADVANC

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนีวันนี้อยู่ที่ 1,200 จุด แนวต้าน 1,220 – 1,225 จุด คาดดัชนีทรงตัว รอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – ไทยในสัปดาห์หน้า รวมถึงสถานการณ์ไทย – กัมพูชา บจ.กลุ่ม Real Sector เริ่มรายงานงบไตรมาส 2/68 ติดตามงบ “PTTEP-DELTA” วันนี้ กลยุทธ์ทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว หุ้นเด่นแนะ TOP, ADVANC

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,200 จุด แนวต้าน 1,220 – 1,225 จุด โดยคาดดัชนีทรงตัว รอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – ไทยในสัปดาห์หน้า รวมถึงสถานการณ์ไทย – กัมพูชา และการเริ่มรายงานงบของกลุ่ม Real Sector ต่าง ๆ ซึ่ง BB.Consensus คาดกำไร Q2/68 บจ. 110 แห่ง -2% QoQ, ทรงตัว YoY แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่น SAWAD,TIDLOR,GULF,EGCO ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง/ เก็งกำไร DOHOME,GLOBAL จากราคาเหล็กในประเทศจีนที่เริ่มปรับสูงขึ้น

วันนี้ติดตามการรายงานงบ Q2/68 ของ PTTEP ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรปกติที่ 1.27 หมื่นล้านบาท -23%QoQ, -47% YoY และ DELTA ซึ่ง BB.Consensus คาดกำไร Q2/68 อยู่ที่ 5.31 พันล้านบาท -19% YoY, -3% QoQ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA -0.70%, S&P500 +0.07%, Nasdaq +0.18% ซึ่ง S&P500, Nasdaq ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ ได้ปัจจันหนจากรายงานกำไร Q2/68 ของ Alphabet มี EPS อยู่ที่ 2.31 ดอลลาร์ ดีกว่าคาดที่ 2.18 ดอลลาร์ กอปรบริษัทจะเพิ่มงบลงทุนด้าน Ai & Cloud ปีนี้ที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะที่ DJIA ปรับลดลง หลัง IBM -8% ตอบรับกำไรจากธุรกิจซอฟท์แวร์ที่ชะลอตัว ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐวานนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 4,000 ราย อยู่ที่ 217,000 ราย ต่ำสุดนับตั้งแต่ เม.ย.ที่ผ่านมา , US PMI ภาคผลิต & บริการ ก.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 54.6 & มิ.ย. 52.9 สูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยสัปดาห์หน้าติดตามผลการประชุมเฟดวันที่ 29 – 30 ก.ค. และผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – อียู

ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับขึ้น หลัง ECB มีมติคงดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ 2% หลังปรับลดดอกเบี้ยลงมา 8 ครั้ง โดย ปธ.ECB จะขอพิจารณาแนวโน้มการค้า & เศรษฐกิจ ก่อนจะตัดสินใจนโยบายดอกเบี้ยในระยะถัดไป

หุ้นเด่นแนะนำ TOP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท) ประเมินกำไรสุทธิ 2Q68 ที่ 5.2 พันล้านบาท +50%QoQ, -6%YoY ดีกว่ากลุ่มพลังงานต้นน้ำ โรงกลั่น-ปิโตรเคมีตัวอื่นๆ (กำไรลดลง-ขาดทุน) เนื่องจากมีบันทึกกำไรพิเศษก้อนใหญ่ที่เป็น negative goodwill ราว 5.5-6 พันล้านบาท และกำไรจากธุรกรรม Bond buy back 1.5 พันล้านบาท

ขณะที่กำไรปกติโตจากค่าการกลั่นที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วน Outlook ใน 3Q68 ผลการดำเนินหลักอาจจะอ่อนลงบ้านเนื่องจากการปิดซ่อมโรงกลั่น โรงอะโรมาติกส์ แต่แนวโน้มค่าการกลั่นน่าจะยืนได้ดีเนื่องจาก spread ของน้ำมันอากาศยานและดีเซลที่อยู่ในระดับสูง (อาจจะสวนทางกับค่าการกลั่น Singapore ที่ต่ำลงเพราะมีสัดส่วนของ Mogas และน้ำมันเตาสูง) โดยเราประเมินกำไรในปี 68 ที่ระดับ 1.1 หมื่นล้านบาท +13% แต่หากรวมกำไรพิเศษเข้าไปแล้วจะอยู่ที่ราว 1.5 หมื่นล้านบาท โตสูง +50%YoY โดย valuation ปัจจุบันยังไม่แพงเทรดที่ PBV=0.44x เทียบกับค่าเฉลี่ยของ peer 0.7-0.8x หาก related ขึ้นไปแถว -1.5SD (PBV=0.55x FV จะอยู่ที่ 41 บาท)

หุ้น ADVANC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 315.0 บาท) คาดการดำเนินงานใน 2Q68 ยังดีได้ต่อจากมาร์จิ้นตามการแข่งขันและ Finance Cost ที่ลดลง ทั้งนี หุ้นกลุ่มสื่อสารยังมีปัจจัยบวกจากเทรนด์ธุรกิจในอนาคต, Data Consumption ที่สูงขึ้น รวมถึงการ Migrate เทคโนโลยี เช่น Package 5G ที่จะส่งผลบวกต่อไปยัง ARPU โดย ส่วนของ ADVANC เอง ฐานผู้ใช้บริการ 5G ณ สิ้น 1Q68 คิดเป็น 28% ของฐานผู้ใช้บริการทั้งหมด ยังมีช่องในการเติบโตของรายได้

นอกจากนี้ การแข่งขันที่ลดลงของผู้ให้บริการในไทยก็จะช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายการประมูลคลื่น โดย การประมูลคลื่นความถี่ย่านกลางในช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ADVANC ได้ต้นทุนที่ถูกลงกว่าเดิม