HoonSmart.com>>บล.ดาโอ คาดทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งกรอบแคบๆ ลุ้นแนวต้านถัดไป 1,230 จุด รอผลเจรจาการค้าสหรัฐฯ หลังอินโดนีเซียจ่อปิดดีลเจรจาสหรัฐฯ
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ มองตลาดหุ้นไทย ยังเป็นทรง Rebound หลังดัชนีผ่าน 1,117 จุดขึ้นมาได้ นักลงทุนตอบรับข่าวการเมือง ช่วงนี้จะเป็นสูญญากาศ (มีข่าวลบ แต่ไม่กระทบตลาด) แต่ฝายวิเคราะห์มองว่า นักลงทุนส่วนใหญ่จะเก็งกำไรช่วงสั้น ๆ เพราะหุ้นที่ขึ้นส่วนใหญ่ เป็นหุ้นที่ราคาลงมามากก่อนหน้านี้
ด้านตลาดหุ้นต่างประเทศ สหรัฐฯทิ้งท้ายก่อนวันหยุดด้วยการลงมติผ่านชุดมาตรการภาษีและการใช้จ่ายมูลค่า 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลข non-farm payroll เพิ่มขึ้น 147,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 4.1% ซึ่งเป็นข่าวดีต่อเศรษฐกิจ แต่อาจเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ที่คาดหวังการลดดอกเบี้ย
ส่วนตลาดหุ้นเอเชีย ผลจากความสำเร็จในการเจรจาการค้าของเวียดนาม-สหรัฐฯ มีแรงกดดันมาถึงประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ ตลาดส่วนใหญ่น่าจะแกว่งกรอบแคบๆในวันนี้
ปัจจัยการเมืองไทย หลังเปิดสมัยประชุมสภาฯ วานนี้ เป็นไปตามคาดการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ยังไม่เกิดขึ้น ส่วนการประชุมครม. นัดพิเศษ นั้นเป็นการแจงหน้าที่รมต. ประเด็นหลักติดตามการยื่นชี้แจงต่อศาล รธน. ของนายกฯ ใน 15 วัน (16 ก.ค.) การเมืองไทยยังมีความกดดัน กระทบความเชื่อมั่นระยะสั้น จนกว่าศาลฯ จะตัดสิน คาดคลี่คลายปลายก.ค. ในช่วงนี้นักลงทุนเริ่มหันไปให้ความสนใจกับเรื่องภาษีศุลกากรไทย-สหรัฐฯ แล้ว
ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่สองในเอเซีย ที่เตรียมประกาศปิดดีล เจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เงื่อนไขคือ ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จาก 32% ที่แปะไว้ตอนแรก ใน reciprocal Tariff เหลือ 20% เหมือน เวียดนาม 2package ลงทุนและซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ รวม 3.4 หมื่นล้านเหรียญ แยกเป็น ลงทุน+ซื้อสินค้าเกษตร .155 หมื่นล้านเหรียญ และ ซื้อสินค้าพลังงาน 1.85 หมื่นล้านเหรียญ ข่าวนี้ เป็นโทนบวกต่อตลาดหุ้น เพราะหลายประเทศ(รวมไทย) น่าจะจบดีลในลักษณะที่คล้ายๆกัน
อย่างไรก็ตามติดตามความเคลื่อนไหวของจีน คาดไม่พอใจในข้อตกลงภาษีระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ โดยจีนเป็นประเทศหลัก รับผลกระทบภาษี 40% กรณีใช้เวียดนามเป็นทางผ่านส่งสินค้าไปสหรัฐฯ ขณะที่สินค้าจากเวียดนามเสียเพียง 20% จากเดิมเรียกเก็บที่ 46% จากข้อตกลงนี้ จะกระทบกับห่วงโซ่อุปทานในของจีน คาดอนาคตบริษัทจีนจะเริ่มย้ายฐานการผลิตออกจากเวียดนาม ไปยังประเทศพันธมิตรอื่นที่ฐานภาษีต่ำกว่า ซึ่งสำหรับไทยจะบวกกลับกลุ่ม นิคมฯ และยังเป็นตัวชี้แนวทางที่ประเทศอื่นๆ จะต้องเสนอมาตรการที่เอื้อต่อสหรัฐฯ ในลักษณะ non-tariff มากขึ้น
ด้านราคาน้ำมันปรับตัวลดลงหลังจากการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบสองสัปดาห์ โดยผู้ค้ากำลังติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และพันธมิตร และการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ในสุดสัปดาห์นี้ (6 ก.ค.)ฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นข่าวลบของหุ้นผู้ผลิตน้ำมัน(PTTEP) แต่บวกต่อหุ้นโรงกลั่นน้ำมัน(TOP, SPRC) และปิโตรเคมี (SCC, SCGP)
“ดัชนีผ่าน 1,117 จุด ซึ่งเป็นสัญญาณการ rebound โดย 3 เหตุผล ที่ทำให้มองว่าดัชนีฯ มีโอกาสขึ้นได้ คือ 1)DELTA ชี้นำตลาด 2)บรรยากาศโดยรวมดีขึ้น 3)คนอยากซื้อ มีมากกว่าอยากขาย กลยุทธ์ เล่นเก็งกำไรช่วงสั้นๆ เราแนะนำให้เลือกซื้อหุ้นที่ราคาลงมาลึกๆ หรือหุ้นที่ความแข็งแกร่ง และมีปันผลดีไว้ก่อน”บล.ดาโอ แนะนำ
หุ้นเด่นแนะนำ AMATA, CBG, TOP, DELTA, KTC, BGRIM, CPALL, SCB
หุ้นแนะนำตามสัญญาณเทคนิค PR9, AAI
