ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น รัสเซียพร้อมลดกำลังการผลิต

ราคาน้ำมันดิบฟื้นหลังรัสเซียพร้อมให้ความร่วมมือลดกำลังการผลิตร่วมกับกลุ่มโอเปก สวนทางปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯเพิ่มขึ้น และเงินดอลลาร์แข็งค่า

บริษัทไทยออยล์ รายงานราคาน้ำมันดิบวันที่ 29 พ.ย. ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัส เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 51.45 ดอลลาร์สหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 59.51 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.75 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากรัสเซียแสดงความพร้อมในการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบครั้งใหม่ ร่วมกับซาอุดิอาระเบียและประเทศสมาชิกอื่นๆ ในกลุ่มโอเปก โดยกระทรวงพลังงานของรัสเซียจะหารือร่วมกับผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในประเทศในวันอังคารที่ 4 ธ.ค.นี้

อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เผยบันทึกการประชุมล่าสุดที่แสดงแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น

ขณะเดียวกันสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10 มาอยู่ที่ระดับ 450 ล้านบาร์เรล แตะระดับสูงสุดของปี 2560 โดยอยู่ต่ำกว่าสถิติสูงสุดเมื่อเดือนมี.ค.2559 เพียง 80 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันสำรองสหรัฐฯ ในปี 2559 ปรับเพิ่มขึ้น 6.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 39.2 ล้านบาร์เรล สูงที่สุดในรอบ 47 ปี โดยมีแรงหนุนจากราคาพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและน้ำมันในชั้นหินดินดานที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น

ในสัปดาห์นี้ บริษัทไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 57-62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามองความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกว่าจะมีการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่ คาดการณ์การลดกำลังการผลิตของปี 2562 ลงสูงสุดถึง 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับการผลิตในเดือนต.ค. 2561 โดยข้อตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตจะมีการพิจารณาในการประชุมวันที่ 6 ธ.ค. 2561 ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านในเดือนพ.ย. คาดว่าจะปรับตัวลดลง ถึงแม้ว่าสหรัฐฯและปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะเริ่มลดลง หลังโรงกลั่นส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ กลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง