ดัชนีกลุ่มอิเล็กทรอนิสก์พุ่ง 7.64% DELTA ขึ้นนำ หุ้นเทคฯทั่วโลกเด้งขึ้น

HoonSmart.com>>ดัชนีกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์พุ่ง 7.64% หุ้นขยับขึ้นยกแผง นำโดย DELTA-HANA-KCE ตอบรับผลประชุมเฟด ส่งหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลกเด้งขึ้นทั่วหน้า นอกจากนี้ ได้แรงหนุนยอดขายเซมิคอนดักเตอร์เกาหลีใต้เพิ่มขึ้น

เมื่อเวลา 11.08 น.ดัชนีกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์พุ่ง 7.64% มาที่ 8,894.27 จุด เพิ่มขึ้น 630.92 จุด หุ้นในกลุ่มฯขยับขึ้นยกแผง นำโดยหุ้น DELTA พุ่ง 7.87% มาที่ 72.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,154.49 ล้านบาท
หุ้น HANA พุ่ง 5.33% มาที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 578.87 ล้านบาท
หุ้น KCE บวก 3.90% มาที่ 40.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 349.74 บาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เช้านี้ปรับตัวขึ้นทั่วหน้า ตอบรับผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ส่งหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐ และตลาดเอเชียต่างปรับขึ้นทั่วหน้า

สัญญาณเทคนิคประเมิน DELTA มีแนวรับ 70 บาท แนวต้าน 72.50-75 บาท, HANA แนวรับ 39 บาท แนวต้าน 41 บาท ส่วน KCE แนวรับ 39.50 บาท แนวต้าน 41.50 บาท

บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่ายอดส่งออกของเกาหลีใต้พุ่งสูงขึ้นในช่วง 20 วันแรกของเดือนมี.ค. 67 +11.2% YoY พลิกจาก 20 วันแรกของ ก.พ. 67 ที่ -7.8% YoY โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณบ่งชี้ภาพโอกาสเห็นการฟื้นตัวกลุ่มชิ้นส่วนฯ ระยะถัดไป เน้น HANA KCE

ทิศทางดังกล่าวเป็นสัญญาณบวกบ่งชี้ภาพโอกาสเห็นการฟื้นตัวกลุ่มชิ้นส่วนฯ หลังอ่อนตัวลงระยะสั้น หากมองภาพอุตสาหกรรม เริ่มเห็นสัญญาณดี หลายส่วน โดย EV ที่กระทบระยะสั้น ภาพชะลอซื้อกำลังจะทยอยผ่อนคลาย 1) ความกังวลดอกเบี้ยสูงค่อยๆคลายลง ดอกเบี้ยกำลังเข้าสู่ขาลง 2) การแข่งขันราคารถยนต์ EV มีสัญญาณบวก Tesla ทยอยปรับราคา Model Y

ด้านโทรคมนาคม 1) Data Center เป็นจุดที่เราคาดว่าการเติบโตค่อนข้างเสถียร ตามความต้องการใช้ข้อมูลทั่วโลก 2) ส่วนสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนฯ สำหรับสมาร์ทโฟน แม้ระยะสั้นขับเคลื่อน AI แต่กระแสการเปลี่ยนผ่านสมาร์ทโฟนสู่ยุคใหม่ที่เริ่มมีการนำ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งเครื่อง จะนำมาสู่การเติบโตรอบใหม่

กลยุทธ์ มองราคาหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯ ค่อนข้างเคลื่อนไหวตามยอดส่งออกเกาหลีใต้ ไต้หวัน สัญญาณเชิงบวกดังกล่าวมองหนุนหุ้นในกลุ่มฟื้นตัวรอบใหม่ ระยะสั้นเน้น HANA(ราคาเป้าหมาย 51.6 บาท) KCE (ราคาเป้าหมาย 55 บาท) โดยนักลงทุนที่เน้นเก็งกำไรรอบสั้น ให้กรอบลงทุน HANA วางแนวรับ (38.5/38) แนวต้าน (40.25/41.5) Stop Loss 37.25, KCE วางแนวรับ (39.5/39) แนวต้าน (42/43.75)Stop Loss 38.25

บล.ทิสโก้ ระบุว่า ได้นำ DELTA เข้าร่วมการประชุม Jefferies 5th Asia Forum เพื่อพบปะกับนักลงทุนประมาณ 26 ราย ผู้บริหารถือโอกาสแยกแยะระหว่างผลิตภัณฑ์ การตลาด และการดำเนินงานด้านการวิจัยและพัฒนาของกลุ่ม DELTA (ไต้หวัน) เทียบกับ DELTA ประเทศไทย โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

สถานการณ์อุปสงค์ในไตรมาส 1/67 ใกล้เคียงกับไตรมาส 4/66 ซึ่งค่อนข้างอ่อนแอ ผู้บริหารยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ 15-20% ในปี 67 โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (29% ของยอดขายในปี 66) นอกจากการเปิดตัวโมเดลใหม่แล้ว สถานการณ์สินค้าคงคลังที่ดีขึ้นจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในครึ่งหลังปี 67

สำหรับปัญหาภาษีขั้นต่ำทั่วโลกของ OECD คาดการณ์ว่าอัตราภาษีที่แท้จริงสำหรับ DELTA จะเพิ่มขึ้นในปี 68 เป็น 10-15% (จาก 5% ในปี 66) ขณะนี้ DELTA อยู่ในขั้นตอนการเจรจากับ BOI เพื่อหาแนวทางในการบรรเทาผลกระทบทางภาษีหรือได้รับเงินชดเชยในอนาคต

โรงงานแห่งใหม่ของบริษัท DELTA 8&9 ที่บางปู ซึ่งจะเปิดในวันที่ 22 มี.ค.67 จะขยายธุรกิจพลังงานไฟฟ้า (ใช้ระบบ
อัตโนมัติขั้นสูงซึ่งมีศักยภาพในการสร้างรายได้ 1.5 พันล้านดอลลาร์) ให้มีกำลังการผลิตรวม 3 พันล้านดอลลาร์ และการดำเนินงานด้านการวิจัยและพัฒนาระดับภูมิภาคของบริษัท นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเพิ่มโรงงานอีก 2 แห่งที่ Wellgrow (คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 4/68) เหล่านี้จะมุ่งเน้นไปที่ส่วนประกอบแบบพาสซีฟและโซลูชันแม่เหล็ก เพื่อรองรับการย้ายธุรกิจที่เพิ่มขึ้นจากประเทศจีน

สาขาในอินเดีย (9% ของยอดขายทั้งหมด) ยังคงประสบปัญหาในการเพิ่ม capacity เนื่องจากขาดแรงงานและปัญหาด้านห่วง
โซ่อุปทาน เนื่องจากข้อจำกัดเหล่านี้ ลูกค้าบางกลุ่มจึงยังไม่เต็มใจที่จะโอนการผลิตผลิตภัณฑ์ของตนไปยังอินเดีย จึงมีโครงการหลายโครงการที่ต้องดำเนินการคู่ขนานกันในประเทศไทยและอินเดีย อย่างน้อยก็ในช่วงแรกๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดความไร้ประสิทธิภาพบางประการ โปรดทราบว่าไม่มีแผนการลงทุนเพิ่มเติมในอินเดียในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เนื่องจากปัจจุบันอัตราการใช้กำลังการผลิตต่ำ

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ data center (25% ของยอดขายทั้งหมด) มีรายละเอียดที่จำกัดในส่วนรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ AI อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้น่าจะเริ่มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 67 เนื่องจากควรมีโครงการจำนวนมากที่นำไปใช้งานในปีนี ้ (เมื่อลูกค้าระบุกรณีการใช้งานของตนแล้ว) เราคาดว่าส่วนแบ่งจะยังคงน้อยกว่า 5% ในปี 67

ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ขาย” สำหรับ DELTA โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 66 บาท